ยังคงอยู่ในกระแสอย่างต่อเนื่องสำหรับค่าย Honda กับโมเดล All New Accord โฉมใหม่ ที่เริ่มมีภาพการทดสอบและเอกสารสิทธิบัตรเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ออกมาเป็นระยะๆ และทาง Carscoop สื่อยานยนต์ระดับโลก ก็ได้ทำบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับซีดานขนาดกลางรุ่นนี้ ว่ามันจะมีการพัฒนาไปในทิศทางไหนบ้าง?
[adsforwp id=”1302″]
![]()
ก่อนอื่นเลยทาง Carscoop ได้นำเสนอภาพ CG จำลองของว่าที่ All New Honda Accord โฉมใหม่ ที่อิงจากข้อมูลจากเอกสารสิทธิบัตรที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ รวมเข้ากับภาพจาก Spyshot การทดสอบล่าสุด และได้มือดีอย่าง Josh Byrnes ดิจิตอลอาร์ติสของสื่อเอง มารับหน้าที่ในการรังสรรค์ภาพประกอบในบทความนี้
รูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถได้มีการวิเคราะห์ไว้ว่า โดยเจ้า All New Honda Accord นั้นจะใช้หลักการออกแบบที่จุดแข็งของโมเดลจากรุ่นก่อนหน้า มาใช้ต่อในรุ่นใหม่ โดยจะสังเกตได้จาก สัดส่วนและแนวหลังคา ที่ดูเหมือนกับรุ่นปัจจุบันเป็นอย่างมาก แต่ด้วยการลดทอนภาษาในการออกแบบ และปรับให้ตัวรถมีความเรียบง่าย ซึ่งสอดคล้องกับ Civic และ Civic Type-R ที่ทำให้ Accord รุ่นใหม่นั้น ดูเรียบง่ายและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม
มาต่อกันที่งานออกแบบส่วนด้านหน้า เราจะพบกับไฟ LED ที่เพรียวบางกว่าและกระจังหน้าสี่เหลี่ยมคางหมู ซึ่งมันมีความใกล้เคียงกับงานออกแบบเดิมของ Ford Taurus ที่ปัจจุบันได้ยุติการผลิตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ส่วนหน้ายังมาพร้อมกับการใช้งานโลหะพื้นผิวเรียบที่ดูไม่ซับซ้อน เช่นเดียวกับส่วนท้ายที่วางทุกสัดส่วนอย่างเรียบง่าย ไฟท้าย LED แบบเต็มความกว้าง ฝากระโปรงหลังมีริมขอบที่บอบบาง และท่อไอเสียก็ซ่อนอยู่หลังกันชนล่าง
[adsforwp id=”1302″]
![]()
ต่อมาคือส่วนของภายในห้องโดยสาร ได้มีการคาดการณ์ว่า All New Accord จะอิงการวางเลย์เอาต์จาก CR-V รุ่นล่าสุดที่พึ่งจะเปิดตัวในอเมริกาไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยจะใช้งานช่องปรับอากาศ A/C ในรูปแบบรังผึ้ง ตามแนวยาว โดยปรับให้มีขนาดที่เตี้ยกว่ารุ่นปัจจุบัน แต่เพิ่มเติมด้วยความยาวจรดคอนโซล โดยมีส่วนควบคุมอยู่ด้านล่าง ที่ยังคงใช้ปุ่มแบบมือหมุน และจะมีหน้าจอสาระบันเทิงแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
และด้วยการที่ตัวรถนั้น จะยังคงใช้แพลตฟอร์มเดียวกับรุ่นปัจจุบันนี้ ทำให้การเปลี่ยนแปลงในเรื่องของเทคโนโลยีและคุณสมบัติต่างๆในห้องโดยสาร น่าจะมีความใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบัน ทั้งในแง่ของคุณภาพในการลดเสียงจากภายนอกตัวรถ ปริมาณการไหลเข้าออกของอากาศภายในห้องโดยสาร แต่สิ่งที่ดูเมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการอำนวยความสะดวกในห้องโดยสาร ทั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่จะมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ล่าสุด รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ซึ่งในตลาดอเมริกาน่าจะมีการรองรับ Alexa จาก Amazon อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ตามสมัยนิยมอย่าง การชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย และระบบเสียง Bose ระดับ Premium
![]()
ในส่วนของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่นั้น แน่นอนว่าฟีเจอร์อย่าง Hond Sensing เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด จะต้องติดตั้งมาบนตัวรถ โดยมีระบบมาตรฐานใหม่ทั้งระบบ Adeptive Cruise Control ที่ปรับปรุงใหม่ ระบบ Traffic Sign Recognition ที่ช่วยในการจดจำป้ายสัญญาณจารจร หรือระบบ Driver-Attention Monitor ระบบที่ช่วยในการตรวจสอบความสนใจผู้ขับขี่ที่มีต่อการจารจร รวมไปถึงระบบพื้นฐานอย่าง Lane-Keeping Assist หรือกล้องมองภาพรอบทิศทาง ที่จะเป็นระบบช่วยเหลือพื้นฐานหลักๆ ของตัวรถ
![]()
ในขณะที่ขุมกำลังเครื่องยนต์ คาดว่า All New Accord จะใช้งานขุมกำลังชุดเดียวกับ CR-V รุ่นใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ซึ่งทำให้ที่แตกต่างกัน โดยตัวหนึ่งจะทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนตัวรถ ส่วนอีกตัวจะทำให้ที่ให้กำเนิดพลังงานแก่แบตเตอรี่ โดยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะมีกำลังสูงสุด 204 แรงม้า (HP) และแรงบิด 247 IB-FT พร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งจะเห็นได้ว่า Accord รุ่นใหม่จะมีกำลังสูงสุดที่มากกว่ารุ่นปัจจุบันเล็กน้อย
![]()
ยังมีกระแสข่าวที่เป็นไปได้อีกว่า Honda จะนำเสนอทางเลือกเครื่องยนต์อีกหนึ่งรูปแบบคือ ขุมกำลัง 1.5 ลิตรเทอร์โบ ที่ปัจจุบันใช้งานบน Honda City Hacthback เป็นตัวเลือกในเกรดเริ่มต้น และก็มีกระแสว่าจะมีการใช้งานเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ ที่ไม่มีมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในรูปแบบเกรดสูงสุดของซีรี่ส์ ซึ่งทั้งสองตัวเลือกนั้นก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้
![]()
อาจจะดูว่า Honda พยายามที่จะ Play Safe กับการวางหมากใหม่ของ Accord รุ่นใหม่พอสมควรเลยทีเดียว แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยว่า ตัวรถจะเป็นคู่แข่งของ Toyota Camry, Nissan Altima และ Hyundai Sonata ซึ่งเราก็คงต้องมารอดูตัวจริงของ Accord รุ่นใหม่กันก่อน ซึ่งเราเองก็คาดว่า Honda จะเปิดตัวภายในสิ้นปี 2022 นี้ หรืออย่างช้าที่สุดก็ในช่วงต้นปี 2023 เพื่อใช้เป็นโมเดลสำหรับการจำหน่ายในปีเดียวกัน
Credit : www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]

