รถเก๋ง BYD Han รุ่นใหม่ปี 2025 ชุดแรกมาถึงตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนแล้ว ซึ่งบ่งบอกว่ารถพร้อมสำหรับการขายแล้ว Han EV รุ่นปรับปรุงใหม่มีระบบกันสะเทือนด้านหลังและสีตัวถังใหม่ การปรับเปลี่ยนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเซ็นเซอร์ LiDAR ในขณะที่รุ่นปลั๊กอินไฮบริด Han DM-i จะใช้การออกแบบภายนอกที่ใกล้เคียงกับรุ่น EV มากขึ้น
![]()
BYD Han ถือเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์รุ่นแรกๆ ของบริษัท เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2020 โดยได้รับการปรับเปลี่ยนตามแผนหลายครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมา และ BYD ตั้งใจที่จะขยายอายุการใช้งานของ Han ด้วยการอัปเดตระยะสั้นอีกครั้ง โดยรุ่นปี 2025 ที่มีการปรับปรุงเล็กๆน้อยๆ และตัวรถก็มาถึงตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
![]()
สิ่งที่น่าสนใจของ BYD Han รุ่น EV สำหรับปี 2025 นั้น มีเพียงรุ่นมอเตอร์เดียวที่วิ่งได้ 506 กิโลเมตรต่อชาร์จ ที่ปรากฏในภาพถ่าย การเคลื่อนไหวนี้ขัดกับนิสัยของผู้ผลิตรถยนต์ในการนำผลิตภัณฑ์รุ่นที่แพงที่สุดมาจัดวาง ในขณะที่ Han รุ่น DM-i เองก็ยังไม่ปรากฏตัวในภาพถ่ายล็อตใหม่นี้ แต่ข้อมูลที่เราได้มานั้น จะมีการปรับปรุงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ มีการพบเจอ Han DM-i รุ่นปี 2025 ถูกพบเห็นบนรถบรรทุกและระหว่างการทดสอบบนท้องถนน ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่ารูปลักษณ์ของตัวรถนั้นเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะเป็นการงานออกแบบของรถ EV มาใช้งาน
![]()
ก่อนหน้านี้ Han DM-i มีกระจังหน้าขนาดใหญ่และไฟหน้าทรงเหลี่ยม แต่รุ่นใหม่นี้มีไฟหน้าทรงยาว ส่วนหน้าปิด และชิ้นส่วนชุบโครเมียมพร้อมโลโก้ “汉” (Han) ซึ่งเราสามารถแยกรุ่น DM-i จากรุ่น EV ได้จากช่องเปิดสำหรับเติมเชื้อเพลิงที่บังโคลนหลังซ้าย และตราสัญลักษณ์ที่ท้ายตัวรถ
![]()
ในทางกลับกัน Han EV รุ่นปี 2025 แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นปี 2024 ยกเว้นเพียงสีของตัวถังที่สามารถแยกด้วยสายตาได้ แต่สิ่งที่อัปเดทที่สุดคือระบบกันสะเทือนหลังอิสระมัลติลิงค์ใหม่ นอกจากนี้ Han EV ยังจะได้รับเซ็นเซอร์ LiDAR เป็นอุปกรณ์เสริมบนหลังคา ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์สำหรับรุ่นท๊อปเท่านั้น ดังนั้นรุ่นเริ่มต้นจึงไม่มีการติดตั้งเซนเซอร์นี้
![]()
![]()
เมื่อเทียบกับรถยนต์ BYD รุ่นปรับปรุงใหม่รุ่นอื่นๆ Han EV ยังคงมีข้อความ “Build Your Dreams” อยู่บนประตูท้ายในขณะเดียวกัน รถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่มีตราสินค้า BYD จะมีโลโก้ BYD เรืองแสงอยู่ที่ด้านหลัง ภายใน Han EV ยังคงเหมือนเดิม โดยมีหน้าจอหมุนได้ขนาดใหญ่และแผงหน้าปัดดิจิทัล
![]()
![]()
คาดว่าระบบส่งกำลังจะยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับราคาจำหน่ายในประเทศจีน ที่จะเริ่มต้นด้วยราคา 179,800 หยวน หรือราวๆ 862,880 บาท สำหรับรุ่น DM-i ในขณะที่รุ่น EV ตัวท๊อปสุดที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ LiDAR นั้นคาดว่าจะมีราคาที่ราวๆ 229,800 หยวน หรือประมาณ 1.10 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com
