Ford Capri ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่เคยมีชื่อเสียงของบริษัท และได้ยุติการผลิตไปนาน แต่ล่าสุดทางบริษัทได้ดึงเอาโมเดลที่เคยได้รับความนิยม ให้กลับมาโลดแล่นใหม่อีกครั้ง ในรูปแบบของคูเป้พลังงานไฟฟ้า ที่แชร์แพลตฟอร์มร่วมกับ VW ID
![]()
สำหรับ Ford Capri นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลคลาสสิกของ Ford ที่วางจำหน่ายในช่วงปี 1968 ถึง 1986 ด้วยรูปแบบของรถสปอร์ตสองประตูไซส์เล็ก ที่ไม่ได้มีขนาดตัวที่ใหญ่โตเหมือนกับ American Muscle แต่ก็มีองค์ประกอบและงานออกแบบที่น่าจดจำรุ่นหนึ่ง โดยล่าสุด หลังจากการยุติการผลิตไปเมื่อปี 1986 เจ้า Capri ก็กลับมาอีกครั้งด้วยรูปแบบของรถครอสโอเวอร์ทรงคูเป้ พลังงานไฟฟ้า
![]()
ตัวรถจะใช้แพลตฟอร์ม MEB ที่พัฒนาโดย VW ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับ ID.4 และ ID.5 โดยมีระยะฐานล้อ 2,770 มิลลิเมตร ซึ่งเจ้า Capri นั้นจะมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่สปอร์ตกว่า และจะถูกวางให้เป็นโมเดลคู่ขนานของ Explorer แต่มีทิศทางที่แตกต่างกัน แนวทางการออกแบบของ Capri รุ่นใหม่ จะแตกต่างกับ Explorer อย่างชัดเจน ด้วยรูปทรงของด้านหลังที่ลาดเอียง โดยอิงแรงบันดาลใจมาจากตัวรถรุ่นดั้งเดิม และดึงเอาองค์ประกอบเดิมจากรถในอดีตปรับปรุงใหม่และใส่ความร่วมสมัยไว้บนตัวรถ
![]()
![]()
เราจะเห็นได้ว่าไฟที่แต่ละมุมมี DRL จัดเรียงเป็นคู่เพื่อให้นึกถึงไฟหน้าสี่ดวงของ Mk1 Capri รายละเอียดอื่นๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจย้อนยุค ได้แก่ บังโคลนอันละเอียดอ่อนและหน้าต่างด้านหลังทรงรี หางที่สะบัดขึ้นซึ่งอยู่ปลายหมวกกับสปอยเลอร์ Ducktail ของ RS3100 และ DRL ด้านหลังที่ชวนให้นึกถึงไฟท้ายของ Mk3 Capri โดยรวมแล้วการออกแบบอาจจะไม่ได้ใกล้เคียงกับรูปแบบดั้งเดิมสักเท่าไหร่นัก แต่เป็นการปรับการออกแบบให้ทันสมัยมากกว่า
![]()
ภายในห้องโดยสารจะมีความคล้ายกับ Explorer โดยจะมีหน้าจออินโฟเทนเมนต์แนวตั้งขนาด 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย ระบบเสียง B&O ลำโพง 10 ตัวพร้อมซับวูฟเฟอร์ และช่องเก็บของลับที่ล็อคได้ด้านหลัง แต่มีรายละเอียดย้อนยุคที่น่าสนุกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือซี่ลวดด้านล่างของพวงมาลัยมีรูปลักษณ์ของพวงมาลัยสปอร์ตคลาสสิกที่มีซี่โลหะเจาะ เช่นเดียวกับซี่ล้อที่ติดตั้งกับรุ่นพิเศษที่คล้ายคลึงกันของ Capri RS2600
![]()
นอกจากนั้น ตัวรถจะยังติดตั้งระบบปรับอากาศแบบสองโซน แยกการทำงานอิสระ เบาะนวดแบบอุ่น สามารถปรับได้ 12 ทิศทาง (เฉพาะคู่หน้า) กระจกมองข้างแบบปรับความร้อนได้ เพื่อป้องกันการเกาะของหิมะและไอน้ำ ระบบไฟภายในรถจะเป็นแบบ Matrix LED และประตูท้ายแบบแฮนด์ฟรี
![]()
ในส่วนของระบบส่งกำลังนั้น ตัวรุ่นมาตรฐานจะมาพร้อมกับมอเตอร์เดี่ยววางหลังขนาด 282 แรงม้า (hp) โดยมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 6.4 วินาที ในขณะที่รุ่นที่สูงขึ้นจะติดตั้งมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีกำลังรวม 335 แรงม้า (hp) และมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 5.3 วินาที ในขณะที่แบตเตอรี่จะมีให้เลือกขนาดเดียวคือ 79 kWh รองรับระยะทางสูงสุด 327 กิโลเมตรต่อชาร์จ สำหรับรุ่นมอเตอร์เดี่ยว และ 592 กิโลเมตรต่อชาร์จ สำหรับรุ่นมอเตอร์คู่
![]()
ในส่วนของการตกแต่งพิเศษในรุ่น Premium นั้นจะมาพร้อมกับ ล้อขนาด 20 นิ้ว และสามารถอัปเกรดสูงสุดได้ 21 นิ้ว คุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่อัปเกรดขึ้นจะประกอบด้วย จอแสดงผลบนกระจกหน้า ระบบช่วยจอดแบบแอ็คทีฟ ระบบช่วยเปลี่ยนเลน และกล้อง 360 องศา
![]()
อย่างไรก็ตาม Ford ยังไม่ได้ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยผู้เชี่ยวชาญจากฝั่งยุโรปคาดว่า ราคาของเจ้า Ford Capri รุ่นใหม่นั้นจะไล่ๆ กับ Explorer ที่ปัจจุบันมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 45,875 ปอนด์หรือราวๆ 2.14 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.carscoops.com
