Leapmotor เตรียมเปิดศึกตลาดแฮตช์แบ็คพลังไฟฟ้าด้วยรถรุ่นใหม่ล่าสุด Lafa 5 Ultra หรือในชื่อรหัส B05 Ultra ซึ่งถือเป็นรถ EV สไตล์สปอร์ตเต็มตัวรุ่นแรกของค่าย โดยมุ่งเป้าไปยังกลุ่มผู้ใช้งานสายวัยรุ่นที่รักสมรรถนะ และวางกำหนดเปิดตัวในจีนช่วงครึ่งแรกของปี 2026
Lafa 5 Ultra แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานด้วยชุดแต่งแบบสปอร์ตรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นสปลิตเตอร์หน้าดีไซน์ใหม่ที่ช่วยเสริมแรงกดอากาศ สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ในสไตล์รถแข่ง และกันชนหน้าพร้อมดิฟฟิวเซอร์เฉพาะรุ่น Ultra ที่ไม่เพียงแค่เพิ่มความดุดันแต่ยังช่วยเสถียรภาพในขณะวิ่งความเร็วสูง รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ที่ออกแบบเฉพาะเพื่อเสริมลุคสปอร์ตแบบเต็มขั้น
แม้ Leapmotor ยังไม่เปิดเผยภาพภายในอย่างเป็นทางการ แต่ได้ยืนยันแล้วว่าจะตกแต่งห้องโดยสารด้วยวัสดุสไตล์หนังกลับ (suede-like) เพื่อสร้างอารมณ์สปอร์ตพรีเมียม ผู้บริหารยังระบุว่าทุกองค์ประกอบในห้องโดยสารจะถูกออกแบบให้มีฟังก์ชันรองรับการขับขี่จริง ไม่มีส่วนตกแต่งที่ทำมาเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Lafa 5 Ultra คือแชสซีที่ได้รับการจูนโดยทีมวิศวกรรมจาก Stellantis ฝั่งยุโรป พร้อมการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 เพื่อความเสถียรและสมดุลสูงสุดขณะเข้าโค้ง คาดว่าอาจมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Dual-Motor AWD แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการในขณะนี้
Lafa 5 Ultra ถูกสร้างบนแพลตฟอร์ม LEAP 3.5 ซึ่งเป็นโมดูลล่าสุดของ Leapmotor ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงโดยเฉพาะ รุ่นมาตรฐานของ Lafa 5 จะเริ่มวางจำหน่ายในจีนช่วงปลายปี 2025 ขณะที่รุ่น Ultra จะเริ่มส่งมอบในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 พร้อมแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศตามลำดับ
ข้อมูลจาก Leapmotor ยังระบุว่า 70% ของผู้ที่จองรถล่วงหน้าเป็นกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 35 ปี แสดงให้เห็นว่าแบรนด์นี้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะและดีไซน์ได้อย่างชัดเจน
เมื่อ Lafa 5 Ultra วางตลาดอย่างเป็นทางการ จะต้องแข่งขันกับรถไฟฟ้าในกลุ่มคอมแพ็กต์แฮตช์แบ็คหลายรุ่น เช่น BYD Dolphin, Geely Geome Xingyuan และ MG4 ซึ่งต่างก็มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง แต่ Lafa 5 Ultra ดูจะมาเหนือในแง่ของภาพลักษณ์สปอร์ตและสมรรถนะที่จริงจังมากกว่า
Leapmotor Lafa 5 Ultra จึงเป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าจับตาสำหรับผู้ที่มองหารถ EV สายสปอร์ตที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังรวมเอาเทคโนโลยี แชสซี และสมรรถนะที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากได้รถไฟฟ้าซิ่งๆ สักคันในราคาคุ้มค่า
ที่มา carnewschina.com