หลังจากเปิดเผยภาพบางส่วนมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่าน สำหรับเจ้า 2022 Toyota Tundra ใหม่ ที่มีการพัฒนาจากรุ่นเดิม แต่จากเอกสารการโปรโมทที่ออกมาอย่างต่อเนื่องกว่า 11 ชุดนั้น ล่าสุดได้มีการเปิดเผยภาพชุดแต่ง TRD ของเจ้า Tundra ใหม่ พร้อมกับการประกาศวันจำหน่ายในตลาดอเมริกาอย่างเป็นทางการแล้ว
[adsforwp id=”1302″]
![]()
![]()
สำหรับ 2022 Toyota Tundra ใหม่นั้น จะมีการปรับปรุงในเรื่องของแพลตฟอร์มใหม่ โดยมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของแหนบด้านหลัง ที่เป็นของเดิมจะถูกแทนที่ด้วย คอยสปริงส์ เพื่อปรับปรุงคุณภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ชุดใหม่ i-Froce MAX V6 ขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ ชุดเดียวกับที่ใช้งานบน Toyota Land Cruiser ใหม่ ที่จะมาพร้อมกับกำลังสูงสุดที่มากถึง 415 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่จะให้กำลังที่มากกว่าเครื่องยนต์ V6 ขนาด 5.7 ลิตรดั่งเดิมที่มีกำลังสูงสุด 381 แรงม้า แรงบิด 544 นิวตันเมตร
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
ในส่วนของรุ่นพิเศษอย่าง TRD จะมีการเสริมคุณสมบัติมากมายเพื่อให้เหมาะสมกับการขับขี่แบบ Off-Road มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ ตัวกันหม้อน้ำ ชุดการ์ดใต้ท้องเครื่อง ชุดล้อฟอร์จใหม่จาก BSS สีดำ พร้อมกับยาง Falken Wildpeak all-terrain ขนาด 285/65 โช้คอัพ Fox พร้อมเหล็กกันโคลงสีแดง และโหมดการขับขี่ตามลักษณะภูมิประเทศอย่าง MTS, DAC/Crawl, Tow / Haul ซึ่งจะช่วยในการขับขี่ในรูปแบบ Off-Road ที่มากขึ้น
[adsforwp id=”1302″]
![]()
![]()
![]()
![]()
ในส่วนของภายในห้องโดยสารนั้น ยังไม่มีการเปิดเผยเต็มรูปแบบ แต่ในรุ่น TRD จะได้รับเบาะนั่งสีแดงทรงสปอร์ต หลังคาพาโนราม่าซันรูฟ หน้าจอสาระบันเทิงส่วนกลางแบบลอยตัว แท่นชาร์จไร้สาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นใหม่ แผงหน้าปัดใหม่พร้อมฟังก์ชั่นแสดงมุมเอียงของรถ
![]()
สำหรับคู่แข่งโดยตรงของ Toyota Tundra ใหม่นั้น จะเป็นตัวที่แย่งชิงตลาดกับ Ford F-150 เจ้าตลาดและ Nissan Titan ตัวเลือกที่มีกลุ่มผู้ใช้งานจำนวนมาก ซึ่งจนถึงตอนนี้ Toyota Tundra ใหม่ยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ แต่มีการประกาศว่าจะมีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในตลาดอเมริกา ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ส่วนตลาดประเทศไทยเองไม่ต้องสงสัยครับ ไม่มาแน่นอนเพราะเรามี Toyota Hilux Revo เป็นตัวชูโรง และด้วยอัตราภาษีที่แตกต่างถ้าเจ้า Tundra มาจำหน่ายในบ้านเรา ราคามันคงเริ่มต้นที่ราวๆ 1.5 ล้านเป็นอย่างต่ำ คงยากจะทำการตลาดอย่างแน่นอน
Credit : keyauto.my
[adsforwp id=”1302″]
