Lotus ผู้ผลิตรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมจากประเทศอังกฤษ ได้เผยโฉมเรือธงใหม่ Emeya งานสี่ประตูไฟฟ้า ที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นกับชื่อ Type 133
[adsforwp id=”1302″]
![]()
Lotus Emeya จะมาพร้อมกับรูปแบบของรถซีดานสี่ประตู ที่ออกแบบตามหลักการของอากาศพลศาสตร์ มีกระจังหน้าแบบแอ็คทีฟซึ่งพบเห็นครั้งแรกใน Eletre SUV เพื่อลดการลากและปรับปรุงประสิทธิภาพเมื่อปิดและทำให้แบตเตอรี่และเบรกเย็นลงเมื่อเปิด นอกจากนี้ยังมีสปอยเลอร์หน้าแบบแอคทีฟ ดิฟฟิวเซอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต และสปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟเพื่อเพิ่มแรงกดสูงสุดเมื่อต้องวิ่งด้วยความเร็วสูง
[adsforwp id=”1302″]
![]()
โดยสปอยเลอร์แบบแอคทีฟนั้นจะมีความกว้าง 11.0 นิ้ว ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่กว่าสปอยเลอร์ใน Eletre ถึง 3.9 นิ้ว และสามารถสร้างแรงกดสุทธิ 474 ปอนด์ แต่น่าเสียดายที่ผู้ผลิตไม่เปิดเผยว่าแรงกดสูงสุดนี้จะเพิ่มขึ้นในย่านความเร็วที่เท่าไหร่
วัสดุที่ยั่งยืนถือเป็นหัวใจสำคัญในการตกแต่งภายในของตัวรถ ซึ่งทาง Lotus ถือว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของโลกที่ใช้เส้นด้ายชนิดใหม่ สำหรับเบาะห้องโดยสาร โดยใช้เศษผ้าฝ้ายในอุตสาหกรรมแฟชั่น มันไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของความหรูหราที่ยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังช่วยลดน้ำหนักเมื่อเทียบกับการใช้วัสดุชนิดอื่นๆ
![]()
![]()
ไม่เพียงเท่านั้น ทางผู้ผลิตยังได้ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Physical Vapor Deposition (PVD) สำหรับการเคลือบสีสำหรับห้องโดยสาร โดยมีส่วนผสมของวัสดุ Alcantara, Ultra-Fabric Polyurethane และ Nappa ในส่วนอื่นๆ ในส่วนของความบันเทิงระหว่างเดินทางนั้น จะพบกับระบบเสียงเซอร์ราวด์ KEF 3D โดยจะนำเสนอเทคโนโลยีที่ผสานรวมการตัดเสียงรบกวน เซ็นเซอร์สั่นสะเทือนที่ติดตั้งด้านนอกจะตรวจจับการเคลื่อนไหวของยางและระบบกันสะเทือน จากนั้นอัลกอริทึมจะสร้าง “Anti-Phasing Acoustic Signals” ผ่านทางลำโพงเพื่อลดสัญญาณรบกวน สำหรับผู้ขับขี่ จะมีจอแสดงผลบนกระจกหน้าแบบ Augmented Reality ขนาด 55 นิ้ว เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีกระจกแสดงผลดิจิตอลและโมดูล LiDar ที่อิงพื้นฐานมาจาก Eletre
![]()
![]()
ตัวรถ Emeya ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม Electric Premium (EPA) ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 102 kWh ซึ่งสามารถเดินทางได้ 373 ไมล์ (ประมาณ 600 กิโลเมตร) จากการทดสอบ WLTP ซึ่งจะเป็นแบตเตอรี่ที่มีขนาดที่เล็กกว่าที่ติดตั้งบน Eletre แต่จะมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งสามารถชาร์จบนสถานีชาร์จแบบ 350 kW ด้วยเวลาเพียง 5 นาที จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 93 ไมล์ (ประมาณ 150 กิโลเมตร) และสามารถชาร์จจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์ด้วยเวลาเพียง 18 นาที
![]()
ในส่วนของตัวเลขสมรรถนะนั้น ทางผู้ผลิตเปิดเผยว่า กำลังสูงสุดของตัวรถจะอยู่ที่ 905 แรงม้า (hp) และแรงบิด 726 ปอนด์-ฟุต มีอัตราเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเวลาเพียง 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุดของ EV จะถูกจำกัดที่ 159 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 255 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ผ่านระบบเกียร์สองสปีดและระบบขับเคลื่อนแบบอิสระสี่ล้อ
![]()
Ben Payne รองประธานฝ่ายออกแบบกลุ่มผลิตภัณฑ์ Lotus กล่าวถึงโมเดลใหม่ว่า “นี่คือ Lotus ใหม่โดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จากสิ่งที่ Lotus ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ เราได้สร้างรถยนต์หรูหราที่มอบสมรรถนะที่โดดเด่นสำหรับผู้หลงใหลในการขับขี่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจความมั่นใจและความตื่นเต้น”
![]()
บริษัทจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของตัวรถในช่วงปลายปี 2023 และมีกำหนดจะเริ่มการผลิตในปี 2024 ที่โรงงานของแบรนด์ Geely ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งจะเป็นโรงงานเดียวกับที่ใช้ในการผลิต Eletre และคาดว่าตัวรถจะพร้อมสำหรับการส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2024 ส่วนการเปิดจองล่วงหน้าและราคาจำหน่ายนั้น ทางบริษัทจะเปิดเผยในโอกาสต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]
