BYD เปิดตัวรถ SUV รุ่น Tang L ในเวอร์ชันอัพเกรดที่งาน Guangzhou Auto Show ปี 2025 ที่ประเทศจีน ซึ่งรู้จักกันในชื่อตลาดสากลว่า Atto 8 หรือ Sealion 8 โดยรถคันนี้ได้รับการผสานเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง และดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่นสะดุดตาเป็นอย่างมาก
สิ่งที่น่าสนใจ
รถรุ่นนี้มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นหลังหักส่วนลดแล้วอยู่ที่ 214,800 – 274,800 หยวน (หรือประมาณราวๆ 9.8 แสนบาท – 1.2 ล้านบาท) โดยทาง Y-Auto หรือกลุ่มลูกค้าที่ใช้รถยนต์ (Auto) รุ่น Y ต่างระบุว่า รถคันนี้มีทั้งระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดและแบบไฟฟ้าล้วน100%
![]()
การออกแบบดีไซน์ทันสมัย
รถ SUV รุ่นปรับปรุงใหม่นี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบ Dragon Face ของ BYD ไว้ ด้วยการดีไซน์ “หนวดมังกร” ในส่วนของด้านหน้ามีการปรับแต่งใหม่ได้อย่างลงตัว ให้รูปลักษณ์ที่พลิ้วไหวและปราดเปรียวเป็นอย่างมาก ที่มาพร้อมเสา D-pillar ได้รับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อเพิ่มแสงธรรมชาติและวิสัยทัศน์ในการมองเห็นสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 ได้อย่างดีเยี่ยม และหลังคาติดตั้งชุดควบคุม Lidar เพื่อเสริมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ
การออกแบบไฟท้ายด้านหลัง
ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมจีน โดยรุ่น “Phoenix Wing” มีการเลียนแบบรูปทรงมาจากขนนกฟีนิกซ์ ขณะที่ดีไซน์ “Bamboo Craft” สะท้อนเทคนิคการทอผ้าแบบดั้งเดิม เป็นต้น
การออกแบบภายใน
ตกแต่งสไตล์แบบพระราชวังด้วยพื้นผิว 3D-cut สลับชั้นและตกแต่งด้วยไม้ไผ่ ผสมผสานเส้นสายที่ทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมอันละเอียดอ่อน แผงหน้าปัดออกแบบอย่างพิถีพิถัน ให้ความรู้สึกถึงมิติและความหรูหราภายในรถ รถทุกรุ่นมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ DiPilot300 ที่ใช้เลเซอร์ระดับสูง God’s EyeB เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วย
![]()
ระบบส่งกำลัง
รถคันนี้มีให้เลือกทั้งแบบปลั๊กอินไฮบริด (DM) และแบบไฟฟ้าล้วน (EV)
- รุ่นไฮบริดผสานระบบ DM เจเนอเรชั่นที่ 5 ของ BYD เข้ากับเครื่องยนต์ 1.5T ให้กำลัง 115 กิโลวัตต์ มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 200 กิโลวัตต์ต่อเพลา ระบบไฮบริดสามารถเร่งความเร็วจาก 0–100 กม./ชม. ได้ในเวลาประมาณ 4.3 วินาที และมีระยะทางวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าล้วน ตามมาตรฐาน CLTC อยู่ที่ 175–215 กิโลเมตร
รุ่น EV มีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่
- รุ่นมอเตอร์คู่ให้กำลัง 230 กิโลวัตต์ที่ล้อหน้า และ 580 กิโลวัตต์ที่ล้อหลัง อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.9 วินาที รถยนต์ไฟฟ้าทุกคันติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอรอน-ฟอสเฟตแบบ blade battery รุ่นที่สอง ขนาด 100.531 kWh ให้ระยะทางตามมาตรฐาน CLTC วิ่งได้ 560 กิโลเมตร, 600 กิโลเมตร และ 670 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าบนตัวรถ
**รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ใช้แพลตฟอร์ม Supere ของ BYD ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ full-domain kilovolt รองรับกำลังชาร์จสูงสุด 1,000 กิโลวัตต์ ซึ่ง BYD ระบุว่าสามารถเพิ่มระยะทางได้ประมาณ 370 กิโลเมตร เมื่อชาร์จไฟฟ้าภายในเวลา 5 นาที
![]()
สิ่งที่ควรรู้
สำหรับรถคันนี้มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ภายในห้องโดยสารใหม่และได้มีการอัปเดตใหม่ให้เหมาะแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งรวมถึงระบบ DiLink 150 ที่สามารถปรับค่าความสว่างได้อย่างเหมาะสม และยังไม่เพียงเท่านี้ยังมีธีมตามฤดูกาลที่ปรับแต่งได้สำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบอีกด้วย และยังมีอินเทอร์แอคทีฟจำนวน 3 ตัว ในลูกค้าได้เลือกใช้ รถคันนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์การขับขี่ขั้นสูง ที่มาพร้อมมระบบนำทางอัตโนมัติแบบ ” parking-spot to parking-spot ” ซึ่งช่วยให้รถสามารถออกจากพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวาง และจอดรถ ณ จุดหมายปลายทางได้โดยไม่ต้องป้อนข้อมูลด้วยตนเองอีกด้วย
ที่มา : carnewschina.com
