ในขณะที่ประเทศไทยเรา กำลังจะมีการเปิดตัวรถยนต์ MPV 7 ที่นั่งรุ่นใหม่ ในช่วงปี 2022 นี้ ซึ่งมีอยู่ 2 รุ่นที่โดดเด่นและน่าจับตามองก็คือ All New Toyota Veloz และ All New Honda BR-V ครั้งนี้เราจะลองนำสเปคของแต่ละคันมาให้ดูกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจไว้ล่วงหน้า
[adsforwp id=”1302″]
หากเราอ้างอิงจากสเปคของทางอินโดนีเซีย All New Toyota Veloz นั้นจะมีความแตกต่างไปจาก All New Avanza พอสมควร (หรืออาจจะเรียกได้ว่ามันเป็น Avanza ตัวท็อปสำหรับเวอร์ชั่นใหม่) การตกแต่งภายนอก มีความสปอร์ตและหรูหรา ระบบไฟส่องสว่างแบบ LED พร้อมไฟ DRL ส่วนเครื่องยนต์จะมาในพิกัด 1.5 ลิตร Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 106 PS และแรงบิดสูงสุด 137 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT
[adsforwp id=”1302″]
และสำหรับ All New Honda BR-V โฉมใหม่นั้น อ้างอิงจากสเปคของอินโดนีเซียเช่นเดียวกัน จะใช้งานออกแบบที่อ้างอิงมาจากรถคอนเซ็ปท์อย่าง N7X ไม่ว่าจะเป็นชุดกระจังหน้า ชุดไฟหน้าที่มีดีไซน์ขนาดที่เล็กและเพรียวกว่าเดิม เสริมด้วยไฟ DRL แบบ LED เหนือไฟหน้า มาพร้อมกับขุมกำลังเบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 ลูกสูบ i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า (PS) ที่ 4,300 รอบต่อนาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT
ตรงนี้สามารถสรุปได้ว่า All New Honda BR-V จะมีทั้งแรงม้าและแรงบิด ที่สูงกว่า All New Toyota Veloz ไประดับหนึ่ง ซึ่งน่าจะส่งผลต่อฟีลลิ่งในการขับขี่ที่แตกต่างอย่างแน่นอน แต่ในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจริงๆ นั้น คงต้องรอดูการรีวิวกันในประเทศไทยเราอีกครั้ง
ทางด้านฟีเจอร์ของ All New Toyota Veloz จะมีการติดตั้งเบรกมือไฟฟ้า + ออโต้เบรกโฮล์ด, ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมไฟ LED, กระจกตัดแสง, โหมดในการขับขี่, ระบบโตโยต้าเซฟตี้เซนส์ ที่จะช่วยเหลือทางด้านความปลอดภัยต่างๆ ในการขับขี่เช่น เตือนการชน ช่วยเบรก ควบคุมการทรงตัว ป้องกันการออกนอกเลน เตือนรถจากด้านท้าย เตือนรถในมุมอับสายตา เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ออกไป ช่วยออกตัวบนทางชัน และยังมีการติดตั้งหน้าจอแสดงผลขนาด 9 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนมาให้ด้วย รองรับทั้ง Apple Car Play และ Andriod Auto
ส่วน All New Honda BR-V นั้น จะมีระบบความปลอดภัย Honda Sensing 2.0 ที่จะประกอบไปด้วยระบบ Road Departure Mitigration, ระบบ Adaptive Cruise Control, ระบบ Auto High Beam, ระบบ Lane Keeping Assisted ฯลฯ ระบบ Remote Engine Start ช่วยอำนวยความสะดวกในการสตาร์ทตัวรถจากระยะไกล และการเข้าถึงการสตาร์ทเครื่องยนต์ และห้องโดยสารโดยไม่ใช้กุญแจ หน้าจออินโฟเทนเมนต์ส่วนกลางจะแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple Car Play และ Android Auto
สำหรับฟีเจอร์ของทั้ง 2 รุ่นนั้น โดยรวมจะมีความใกล้เคียงกัน และจะมีบางอย่างที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป อย่าง All New Toyota Veloz นั้น จะมีเบรกมือไฟฟ้า และระบบออโต้เบรกโฮลด์ สร้างความสะดวกสบายเป็นอย่างมา โดยเฉพาะการใช้งานในเมือง ในขณะที่ All New Honda BR-V นั้น ยังไม่มีตรงนี้มาให้ แต่ว่าตัวรถก็จะได้เปรียบในเรื่องของระบบอย่าง Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผันตามรถคันข้างหน้า ซึ่งหลายต่อหลายคนก็ชื่นชอบระบบนี้
สุดท้ายแล้วก็คงจะต้องมารอดูราคาในการเปิดตัวสำหรับประเทศไทยเรา ของรถทั้ง 2 รุ่นนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ รวมไปถึงฟีเจอร์ต่างๆ ของตัวรถ ว่าจะเหมือนหรือแตกต่างไปจากเวอร์ชั่นอินโดนีเซีย ที่เรานำมาอ้างอิงในครั้งนี้หรือไม่?
[adsforwp id=”1302″]
