Skip to content
Home » บทความ » เจาะรายละเอียด All New Haval H6 และ F7 ก่อนถล่มตลาด SUV ในไทยด้วยราคาเบาๆ เร็วๆ นี้!

เจาะรายละเอียด All New Haval H6 และ F7 ก่อนถล่มตลาด SUV ในไทยด้วยราคาเบาๆ เร็วๆ นี้!

กระแสข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุด ได้มีการคาดการณ์ว่าทางบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Great Wall Motors ที่เข้าเทคโอเวอร์โรงงานของ Chevrolet ในไทยเมื่อช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมานั้น เตรียมที่จะเปิดตัวแบรนด์ในเครือของตัวเองอย่าง Haval อย่างเป็นทางการในไทยเร็วๆ นี้ พร้อมกับแนะนำรถ SUV รุ่นใหม่ 2 รุ่นประเดิมทำตลาดด้วยกันอย่างรุ่น H6 และ F7!

โดยสำหรับ All New Haval H6 นั้น เป็นรถ SUV ขนาดใหญ่ (ไซส์พอๆ กันกับ CR-V และ CX-5) ที่มียอดขายอันดับ 1 ในประเทศจีนล่าสุด ซึ่งมันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรแบบเทอร์โบชาร์จ ให้แรงม้าสูงสุดมาอยู่ที่ 169 ตัว และยังจะมีเครื่อง 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้เลือกในรุ่นท็อปด้วย มิติของตัวรถจะมีขนาดยาว 4,653 มม. กว้าง 1,886 มม. และสูง 1,730 มม. ระยะฐานล้อจะอยู่ที่ 2,738 มม. โดยจะมากกว่ารุ่นเดิมไปถึง 58 มม. ด้วยกัน

Great Wall Motor Haval H6

การเดินเส้นสายโดยรวมของตัวรถจะเน้นความทันสมัย ตามแนวทางของรถ SUV ในยุคนี้ ในขณะที่ส่วนของตัวถังนั้นก็ได้รับการออกแบบกันมาใหม่ด้วย พร้อมด้วยฟีเจอร์ช่วยเหลือด้านความปลอดภัยอย่างครบครัน และมิติภายนอกและภายในของตัวรถนั้น จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า H6 โฉมก่อนหน้านี้ เน้นการใช้งานที่สะดวกสบาย และการขับขี่ที่สนุก

และสำหรับ All New Haval F7 นั้นจะเป็นรถทรง SUV ขนาด 5 ที่นั่ง มาพร้อมกับขุมกำลัง 2 ขนาดให้เลือกคือ ขนาด 1.5GDIT เทอร์โบ ให้แรงม้าสูงสุด 169 ตัว ให้แรงบิดสูงสุดที่ 285 NM และเครื่องยนต์ 2.0GDIT เทอร์โบ ให้แรงม้าสูงสุด 224 ตัว แรงบิดสูงสุด 358 NM

เครื่องยนต์ทั้งคู่นั้นจะทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดแบบดูอัลคลัทช์ DCT และขับเคลื่อน 4 ล้อ four-wheel drive system ซึ่งทางค่ายเคลมไว้ว่าในรุ่นท็อปเครื่อง 2 ลิตรนั้น สามารถทำความเร็วตั้งแต่ 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียงแค่ 7.5 วินาทีเท่านั้น รวมไปถึงโหมดการขับขี่ถึง 6 โหมด อย่างโหมด Standard (มาตรฐาน), Sport (เน้นความแรง), Mud (ลุยโคลน), Sand (ลุยทางฝุ่นทางทราย), Snow (ลุยหิมะ) และ ECO (ประหยัดน้ำมัน) หน้าจอแสดงผลภายในตัวรถจะเป็นแบบ LCD ขนาด 7 นิ้วสำหรับแดชบอร์ด และขนาด 9 นิ้วสำหรับการแสดงผลมัลติมีเดียต่างๆ ซึ่งรองรับระบบทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto นอกจากนั้นยังเสริมระบบความปลอดภัยด้วย Air Bag ถึง 6 ลูกด้วยกัน, ระบบป้องกันการชน, เบรก ABS และระบบกล้องมองรอบคัน

ส่วนภายในตัวรถนั้นจะประกอบไปด้วย กระจกมองหลังแบบปรับแสงอัตโนมัติ, เกียร์อัจฉริยะ Intelligent Gear Shifter, เบาะนั่งด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, หน้าจอแสดงผล Multi Media ขนาด 9 นิ้ว, หน้าจอแสดงสถานะต่างๆ ของตัวรถแบบ High-resolution, หลังคาแบบพาโนรามิก ซันรูฟ

โดยราคาของ All New Haval H6 ในจีนจะเริ่มต้นที่ประมาณ 450,000 บาท ส่วน All New Haval F7 นั้นจะเริ่มต้นในจีนที่ประมาณ 500,000 บาท น่าสนใจทีเดียวว่าทาง GWM จะเซ็ทราคาในไทยสำหรับทั้ง 2 รุ่นนี้อย่างไรบ้าง? (ประกอบในโรงงานไทยที่ระยอง) ซึ่งแน่นอนว่ามันน่าจะต้องแพงกว่าโครงสร้างราคาในจีนไปในระดับหนึ่ง ด้วยเรื่องของฐานภาษีรถยนต์ในบ้านเรา ฯลฯ แต่หากว่ามันจะแพงกว่าในจีนไปสักประมาณ 100,000 – 150,000 บาท ก็ยังนับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเอามากๆ เพราะมันก็จะไปมีราคาพอๆ กันกับรถ B-Segment ในบ้านเราอย่างพวก City, Vios ตัวกลาง แต่นี่จะได้รถ SUV เต็มรูปแบบมาเลย มารอติดตามลุ้นกันในเร็วๆ นี้!

eFwRIb.jpg 9eeb195abd2c4cf2cbd761c79378dbcd.jpg GGxRyn.jpg JnjN68.jpg MIKi4f.jpeg MIKRxa.jpeg
รถใหม่ ราคารถใหม่ รถเปิดตัวใหม่