Toyota Corolla Cross ปี 2026 รุ่น MinorChange เวอร์ชั่นยุโรป รถยนต์รถครอสโอเวอร์ระดับเริ่มต้นของทางค่าย Toyota โดยได้มีการปรับปรุงบางส่วนสำหรับรุ่นปี 2026 นี้ซึ่งได้แก่กระจังหน้ารถแบบใหม่ 2 แบบ เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างรุ่นเบนซินและรุ่นไฮบริด และภายในก็มีการปรับแต่งเล็กน้อย มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
Corolla Cross Hybrid ปี 2026 ใช้กระจังหน้าสีเดียวกันกับรุ่นปัจจุบัน ที่ได้เปิดตัวกระจังหน้าเมื่อปีที่แล้ว สำหรับ Corolla Cross เครื่องยนต์เบนซินจะมีการออกแบบแผงกระจังหน้าใหม่ดูแข็งแรงมากยิ่งขึ้นมาพร้อมช่องเปิดที่ใหญ่ขึ้นและแถบหนาที่ด้านบนเพื่อบ่งบอกว่าเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
ระบบส่งกำลังของทั้ง 2 รุ่น ยังคงเหมือนเดิม
– รุ่นไฮบริดยังคงเป็นรุ่นที่ให้พละพลังมากที่สุด โดยมีกำลังรวม 196 แรงม้า จับคู่กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว
– รุ่นขับเคลื่อนเบนซินมาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 169 แรงม้า เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง
การออกแบบภายใน Corolla Cross 2026 จะมาพร้อมจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้นขนาด 10.5 นิ้ว จะอยู่เหนือคอนโซลกลางที่ออกแบบใหม่ ซึ่งอยู่ถัดจากแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 7.0 หรือ 12.3 นิ้ว ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย Toyota ได้เปลี่ยนตำแหน่งปุ่มและพอร์ตต่างๆ แยกคันเกียร์ออกจากตำแหน่งที่วางแก้วแบบเดิม และถอดชิ้นส่วนตกแต่งบางชิ้นออกไป การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เพียงไม่กี่อย่างก็สร้างความแตกต่างได้อย่างมากให้กับรถคันนี้
ไม่เพียงเท่านี้ Toyota เวอร์ชันยุโรป ยังมีรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซด้วยกัน 3 รุ่น สำหรับเวอร์ชันปี 2026 ได้แก่รุ่น L, LE และ XLE และสำหรับ Corolla Cross Hybrid จะมี 3 รุ่นให้เลือก ได้แก่รุ่น S, SE และ XSE สีภายนอกใช้สี Cavalry Blue แบบใหม่ มีให้เลือกในรุ่น LE, XLE, SE และ XSE โดยรุ่นไฮบริดจะมีสี Jet Black แบบทูโทนเป็นสีใหม่ นอกจากนี้ยังสวมล้อขนาด 18 นิ้วแบบใหม่ 2 แบบ ให้ลูกค้าเลือกอีกด้วย
สำหรับราคาค่าตัว Toyota ไม่ได้ประกาศราคาของรุ่นโฉมปี 2026 ในตอนนี้แต่เมื่อเทียบกับโฉมปี 2025 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 25,485 ดอลลาร์หรือราว ๆ 8.45 แสนบาท รวมค่าบริการทุกอย่างอีกประมาณราว ๆ 44,739 บาท สำหรับรุ่น L ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นในเวอร์ชันยุโรป ขณะเดียวกัน Corolla Cross Hybrid S ปี 2025 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 29,845 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 9.89 แสนบาท นั่นเอง
ทางค่ายจะเปิดราคาในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นเวลาใกล้กับวันที่รถรุ่นนี้วางจำหน่าย เราคาดว่าจะมีการสูงขึ้นเล็กน้อย หากทราบข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมารายงานต่อไป
ที่มา : www.motor1.com