ในวันที่ 5 กันยายน 2568 ฮอนด้าเริ่มจัดจำหน่าย All‑new Honda Prelude อย่างเป็นทางการในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการกลับมาของชื่อ Prelude อีกครั้งหลังหายไปนาน โดยรถรุ่นใหม่นี้ถูกออกแบบให้เป็น “บทนำ (Prelude)” ไปสู่ทิศทางใหม่ของรถสปอร์ตเฉพาะทางในยุคไฟฟ้า พร้อมส่งเสริมแนวคิด “joy of driving” ให้สอดคล้องกับยุคสมัยใหม่ที่เน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ฮอนด้าระบุว่า Prelude โฉมใหม่สร้างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Unlimited Glide” หวังให้ผู้ขับเหมือนได้ล่องลอยอย่างอิสระเหมือนกลไกการบิน โดยผสมผสานความโฉบเฉี่ยวของรูปลักษณ์กับประสิทธิภาพในการขับขี่อย่างลื่นไหล
ภายนอก: เส้นสายเรียบหรู ความใส่ใจในรายละเอียด
ตัวรถ Prelude ใหม่มีดีไซน์ภายนอกที่เน้นความเรียบหรูและทันสมัย:
-
ด้านหน้าเป็นฝากระโปรงเตี้ย ไหลลื่นลง พร้อมไฟหน้าแบบ “wing-like multifunction light” ที่มีเส้นสกายราย (stripe) เล็ก ๆ ขึ้นด้านนอก
-
ใช้เทคนิค laser brazing เพื่อเชื่อมหลังคาให้เรียบไร้รอยต่อ พร้อมติดตั้งเสาอากาศแบบพิมพ์บนกระจก (glass-printed antenna) ลดความยุ่งเหยิงบนหลังคา
-
มือจับประตูแบบ flush (แนบตัวรถ) และกระจังหน้าลายโครเมียมโลหะดำบางส่วน (black chrome grille louver) เพิ่มความพรีเมียมให้ตัวรถ
-
มีการตกแต่งด้วยจุดสีฟ้าที่ตำแหน่งล่างกลางข้างหน้าและท้าย เพื่อเน้นความเป็นรถไฮบริด-ไฟฟ้าในโทนที่สง่างาม
ภายใน: ความสมดุลระหว่างสปอร์ตและความหรูหรา
ห้องโดยสารของ Prelude ใหม่ถูกปรับดีไซน์ให้มีความล้ำสมัยและใช้งานได้จริง:
-
พวงมาลัยแบบ bottom-flat และ paddle shifter อลูมิเนียม
-
หน้าจอแสดงผลแบบเต็มกราฟิกเฉพาะ Prelude
-
แนวเส้นสายภายในถูกออกแบบให้สายตามองเห็นกว้าง นิยมภาพลอยตัวให้รู้สึกถึงความโปร่งสบาย
-
เบรกมือ คอนโซล และองค์ประกอบอื่น ๆ ถูกออกแบบให้ไม่รกรุงรัง
-
เบาะคู่หน้าออกแบบแยกกัน: เบาะผู้ขับโอบกระชับ ขณะที่เบาะผู้โดยสารออกแบบให้ความสะดวกสบายมากขึ้น
-
พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายแบบ liftback พร้อมประตูลากเปิดได้กว้าง พร้อมพับเบาะหลังแบบ 60/40 และมีช่องเก็บใต้พื้นกระโปรงสินค้าที่ยืดหยุ่นได้
ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี e:HEV + S+ Shift
Prelude ใหม่มาพร้อมระบบไฮบริด e:HEV เจเนอเรชันใหม่ พร้อมฟังก์ชัน Honda S+ Shift ที่จำลองการเปลี่ยนเกียร์และเสียงเครื่องยนต์ให้เหมือนรถสปอร์ตเกียร์ธรรมดา:
-
S+ Shift ควบคุมรอบเครื่องยนต์ + emulated shift เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่สนุกและมีส่วนร่วมมากขึ้น
-
ฟีเจอร์ Coasting Control ถูกเพิ่มเข้ามาเป็นครั้งแรกใน Honda ใช้เพื่อให้รถเบรกโดยธรรมชาติเหมือนปล่อยว่าง (เหมือนเกียร์ว่าง) เมื่อลดคันเร่ง เหมาะสำหรับการขับขี่ราบเรียบในเมือง
-
มีโหมดขับขี่ 3 แบบ ได้แก่ Sport / GT / Comfort พร้อมโหมด Individual ให้ผู้ขับสามารถปรับแต่ง 6 ด้าน ได้แก่ ระบบขับกำลัง, พวงมาลัย, ระบบกันสะเทือน, เสียงเครื่อง, การแสดงผลมาตรวัด และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
-
โครงสร้างตัวถังใช้เหล็กแรงสูงหลายจุด รวมถึงฝากระโปรงอลูมิเนียมเพื่อช่วยลดน้ำหนัก
-
ระบบกันสะเทือน ใช้พื้นฐานจาก Civic Type R พร้อมการปรับแต่งในด้านความแม่นยำและการควบคุม
-
ระบบ Honda Agile Handling Assist เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพวงมาลัยและเสถียรภาพในโค้ง โดยช่วยปรับแรงเบรกที่ล้อด้านในเพื่อให้การเข้า-ออกโค้งนุ่มนวลขึ้น
สมรรถนะ ประสิทธิภาพ และการวางตำแหน่งราคา
-
Prelude ใหม่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แบบ Atkinson ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
-
รวมกำลังสูงสุดอยู่ที่ราว 200 แรงม้า (200 hp) และมาพร้อมแรงบิด 232 lb-ft (ประมาณ 314 N·m)
-
ระบบส่งกำลังเป็น e-CVT / direct‑drive hybrid ไม่ได้มีเกียร์ธรรมดาจริง ๆ แต่จำลองอัตราทดด้วย S+ Shift
-
ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่นเริ่มต้นที่ ¥6,179,800 เยน (ราว 1,357,000 บาท) ซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มรถสปอร์ตไฮบริดระดับสูงของฮอนด้า
-
ฮอนด้าวางแผนจำหน่าย Prelude เดือนแรกประมาณ 300 คันต่อเดือน ในญี่ปุ่น
ความหมายและการบ้านของ Prelude ในยุคใหม่
Prelude ใหม่ไม่เพียงแค่การกลับมาของชื่อรุ่นที่คนรักรถรอคอยเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของทิศทางใหม่ในฝั่งรถสปอร์ตของ Honda ที่เดินหน้าสู่ยุคไฮบริด-ไฟฟ้า โดยคง DNA “สนุกในการขับขี่” ไว้ พร้อมกับคำนึงถึงการใช้ในชีวิตประจำวัน
รถรุ่นนี้อาจเป็นตัวตั้งทางให้ Honda ผลิตรุ่นสปอร์ตเฉพาะทางอื่น ๆ ในอนาคต เช่น รุ่นสปอร์ต 2 ประตู หรือรุ่น coupe‑liftback ที่มีขุมพลังไฟฟ้าแบบ e:HEV หรือแบบ pure EV โดย Prelude ทำหน้าที่เป็น “บทนำ” ให้ตลาดได้สัมผัสแนวทางใหม่