Tesla ปล่อยหมัดเด็ดด้วยการเปิดตัว Model Y Standard รุ่นใหม่ ในประเทศอเมริกาที่มาพร้อมราคาสบายกระเป๋ากว่าที่เคย โดยอยู่ที่ประมาณ 1.29 ล้านบาท เมื่อแปลงเป็นเงินไทย
อะไรที่ได้ – อะไรที่หายไปใน Model Y Standard?
เพื่อให้เข้าถึงราคาเริ่มต้นที่ถูกลง Tesla ได้ลดทอนอุปกรณ์หลายจุดในรุ่น Standard:
-
ตัดหลังคากระจกพาโนรามา เปลี่ยนเป็นหลังคาเหล็ก
-
เบาะหนัง ถูกแทนที่ด้วยผ้าธรรมดา
-
ไม่มีแถบไฟหน้าแบบพรีเมียม
-
พวงมาลัยปรับด้วยมือ
-
เบาะหน้าตัดระบบระบายอากาศ
-
ไม่มีระบบเบาะหลังอุ่น
-
ไม่มีจอหลัง 8 นิ้ว แต่ยังคงจอหลักขนาด 15.4 นิ้วด้านหน้าไว้เช่นเดิม
ดีไซน์ล้อและสีตัวถัง
-
ล้อขนาด 18 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
-
อัปเกรดเป็นล้อ 19 นิ้วได้ในราคา $1,500 (ประมาณ 55,000 บาท)
-
สีตัวถังเลือกได้ 3 สี:
-
Stealth Grey (ฟรี)
-
Pearl White (+$1,000 / ~36,500 บาท)
-
Diamond Black (+$1,500 / ~55,000 บาท)
-
อุปกรณ์เสริมเลือกเพิ่มได้
-
ชุดตะขอลาก: $1,000 (ลากจูงได้สูงสุด 1,590 กก.)
-
ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Full Self-Driving (Supervised): $8,000
-
ที่ชาร์จติดผนังความเร็วสูง: $450 (ชาร์จได้ ~44 ไมล์/ชม.)
สมรรถนะและระยะทางที่ได้
Tesla Model Y Standard ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวด้านหลัง พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 69.5 kWh:
-
กำลังสูงสุด: 300 แรงม้า
-
ระยะทางวิ่ง: 321 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ประมาณ 516 กม.)
-
อัตราเร่ง 0–60 ไมล์/ชม.: 6.8 วินาที
เมื่อเทียบกับรุ่น Long Range ที่วิ่งได้ 357 ไมล์ และเร่งได้ใน 5.7 วินาที ความต่างของ Model Y Standard ถือว่า “ยอมรับได้” สำหรับใครที่ไม่ได้ต้องการสมรรถนะขั้นสุด
สรุป – คุ้มค่าหรือไม่?
แม้จะไม่มีฟีเจอร์หรูแบบรุ่นท็อป แต่ Model Y Standard ก็ยังให้สมรรถนะที่ดีเกินพอในราคาที่เข้าถึงได้ และหากเลือกอัปเกรดอุปกรณ์ทุกอย่างจนเต็ม ก็ยังถือว่าคุ้มค่า
ไม่ใช่ Tesla รุ่นต่ำกว่า 1 ล้านบาทที่ทุกคนรอคอย แต่ก็คือ SUV ไฟฟ้าสุดคุ้มในแบบ Tesla ที่ราคาดีที่สุดในตอนนี้แน่นอน