เตรียมเปิดตัว BYD Sealion 06 อย่างเป็นทางการมีให้เลือกทั้งแบบไฟฟ้าล้วน BEV และปลั๊กอินไฮบริด PHEV ที่มาพร้อมขุมพลังเทคโนโลยี DM-i ของ BYD คาดว่าจะเปิดตัวในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ที่ประเทศจีน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการประกาศราคาจำหน่ายไว้ที่ 160,000 – 200,000 หยวน (หรือประมาณราว ๆ 7.1 – 8.9 แสนบาท) ในงาน Shanghai Auto Show 2025
มีให้เลือกทั้ง 2 แบบ BEV และ PHEV
- รุ่น BEV ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 Evo ของ BYD
- รุ่น PHEV ใช้เทคโนโลยี DM เจเนอเรชันที่ 5 ของ BYD
BYD Sealion 06 DM-i เครดิต: BYD
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอก ทั้ง 2 รุ่น ใช้ดีไซน์การออกแบบล่าสุดจากซีรีส์ Ocean ของ BYD ที่โดดเด่นด้วยด้านหน้าแบบปิดพร้อมไฟหน้าขนานและกระจังหน้าคู่ที่ด้านล่าง กลุ่มไฟท้ายแบบคลื่น และดีไซน์มือจับประตูแบบกึ่งซ่อนสมัยใหม่ คาดว่ารถยนต์ทั้งหมดในซีรีส์นี้จะมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง “God’s Eye” C (DiPilot 100) ซึ่งปัจจุบันได้มีการรองรับเฉพาะระบบขับขี่อัจฉริยะ NOA (Navigate on Autopilot) เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงระบบขับขี่อัจฉริยะระดับ L2+
BYD Sealion 06 เป็นรถ SUV ขนาดกลาง มีขนาด 4810/1920/1675 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2820 มิลลิเมตร และใช้ยางขนาด 235/50R19 น้ำหนักรถเปล่าไม่รวมของเหลวอยู่ที่ 1,890 กิโลกรัมในรุ่น PHEV
- ในด้านพละกำลังปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร (รุ่น BYD472QC) ให้พละกำลังสูงสุด (99 แรงม้า) ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า (รุ่น TZ210XYC) ที่ให้กำลังสูงสุด (215 แรงม้า) จับคู่กับชุดแบตเตอรี่ Blade ขนาด 18.3 kWh และ 26.6 kWh ของทาง BYD ให้ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนอยู่ที่ 93 กิโลเมตร และ 130 กิโลเมตร ตามลำดับ
- รุ่นไฟฟ้าล้วน (BEV) จะมาพร้อมมอเตอร์เดี่ยว 2 รุ่นย่อยและมอเตอร์คู่ในรุ่นท็อป
– รุ่นมอเตอร์เดี่ยว: ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 180 กิโลวัตต์ (241 แรงม้า) หรือ 170 กิโลวัตต์ (228 แรงม้า) มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ Blade 65.28 ก kWh หรือ 78.72 kWh วิ่งได้ระยะทางเดินทางที่ 520 หรือ 605 กิโลเมตร ตามลำดับ
– รุ่นมอเตอร์คู่: ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 110 กิโลวัตต์ (148 แรงม้า) และหลัง 180 กิโลวัตต์ ชุดแบตเตอรี่ Blade 65.28 kWh หรือ 78.72 kWh วิ่งได้ระยะทางเดินทาง 520/550/605 กิโลเมตร
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็นรูปตัว T และมาพร้อมกับหน้าจอควบคุมกลางแบบลอยขนาดใหญ่ แผงหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และพวงมาลัยแบบ 4 ก้านด้านล่างทรงแบน
คอนโซลกลางมีที่วางแก้วน้ำสองช่อง ปุ่มหมุนสำหรับควบคุมอุณหภูมิของตู้เย็น และแท่นชาร์จไร้สาย ตู้เย็นสามารถเก็บขวดได้ประมาณ 4 ขวด นอกจากนี้ ความจุภายห้องโดยสารสามารถเก็บสัมภาระที่ด้านหน้าได้ถึง 142 ลิตร และเก็บของด้านหลังได้ที่ 757 ลิตร และสามารถเพิ่มความจุได้ถึง 1,630 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังแถว 2 ลง ถือว่าเป็นรถที่คุ้มค่าอีกหนึ่งรุ่นในราคาต่ำล้าน และถ้าหากนำรุ่นไฟฟ้า (BEV) มาทำตลาดในไทยเราคงตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าไฟฟ้าอย่างแน่นอน
ที่มา: carnewschina.com