Skip to content
honda-civic.jpeg

โฉมแรกของ Mercedes-Benz GLA- และ GLB-Class ปี 2024

เผยโฉมครั้งแรกอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Mercedes-Benz GLA- และ GLB-Class โมเดล subcompact SUV ที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนักจากรุ่นก่อนหน้า แต่จัดเต็มด้วยเทคโนโลยี Hybrid ใหม่ “RSG boost” ที่พัฒนาโดยผู้ผลิตสัญชาติเยอรมัน

[adsforwp id=”1302″]

eGUbnN.jpg

ตามข้อเท็จจริง ระบบ RSG boost ถูกพัฒนาโดย Mercedes-Benz มาตั้งแต่ปี 2017 โดยใช้หลักการของ mond Hybrid 48v เพื่อจ่ายพลังงานให้กับฟังก์ชันไฮบริดแบบอ่อน เช่น การคืนพลังงาน (brake regeneration) การหยุดเครื่องยนต์ การสตาร์ทเครื่องยนต์ การเพิ่มพลังไฟฟ้า และแม้แต่การเคลื่อนรถจากการหยุดด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว คุณลักษณะเหล่านี้จะเปิดใช้งานผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสตาร์ทในตัว หรือที่ทางผู้ผลิตเรียกว่า ISG แต่เจ้า RSG นั้นจะเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยสายพาน

[adsforwp id=”1302″]

eGUlWV.jpg

นอกเหนือจาก RSG boost แล้ว การเปลี่ยนแปลงใน GLA และ GLB นั้นเรียกได้ว่ามีน้อยมาก โดยตัวรถจะได้รับกระจังหน้าใหม่พร้อมชุดไฟหน้า LED ประสิทธิภาพสูงที่ปรับปรุงทัศนวิสัยด้านหน้าในตอนกลางคืน การเปลี่ยนแปลงที่ฝากระโปรงหน้าจะมีส่วนนูนเล็กๆ ที่อาจจำเป็นสำหรับสำหรับการติดตั้งระบบ RSG boost หรือมีไว้เพื่อรูปลักษณ์เท่านั้น

eGUUOl.jpg

ในรุ่น GLB รุ่นใหม่จะมีรูปทรงดั้งเดิมกว่า มาพร้อมกับกระจังหน้าที่คล้ายกัน ไฟท้าย LED ชุดใหม่ และล้อดีไซน์ใหม่ทั้งขนาด 18 และ 20 นิ้ว และตัวเลือกสีใหม่ สำหรับทั้ง GLA และ GLB ในสีน้ำเงิน Spectral Blue Metallic

eGUEzv.jpg

ภายในครอสโอเวอร์ทั้งสองคัน การตกแต่งภายในได้รับประโยชน์จากการออกแบบพวงมาลัยล่าสุดของ Mercedes และใช้จอแสดงผลขนาด 10.25 นิ้วแบบคู่ สำหรับแผงหน้าปัดและหน้าจออินโฟเทนเมนท์ซึ่งมีระบบอินโฟเทนเมนต์ MBUX เวอร์ชันล่าสุดพร้อม Apple CarPlay แบบไร้สายและ การเชื่อมต่อ Android Auto คุณสมบัติมาตรฐานเช่น High Beam Assist แพ็คเกจจอดรถพร้อมระบบกล้องมองภาพ 360 องศาและภาพ 3 มิติ แพ็คเกจกระจก และแพ็คเกจ Keyless GO มาพร้อมกับเทคโนโลยีมาตรฐาน ADAS ที่อัพเกรดใหม่ล่าสุด เช่น ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถพร้อมการบังคับเลี้ยวแบบแอคทีฟ Burmester พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos เป็นอุปกรณ์เสริม

eGUqak.jpg

ในขณะที่การติดตั้งเครื่องยนต์ของทั้ง 2 รุ่นจะเลือกใช้งานเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบเรียง เทอร์โบชาร์จขนาด 2.0 ลิตร โดยมีระบบ RSG boost เป็นตัวช่วยในการขับกำลังเครื่องยนต์อีก 13 แรงม้า (hp) ทำให้ตัวรถมีกำลังสูงสุด 221 แรงม้า (hp) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 258 Ib-Ft

eGUOxE.jpg

สำหรับการแบ่งสัดส่วนเกรดของตัวรถนั้น Mercedes-Benz GLA และ GLB จะเริ่มที่รหัส 250 เป็นรุ่นมาตฐานมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และรุ่น 250 4 Matic ที่มาพร้อมกับระบบจับเคลื่อนสี่ล้อ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกประสิทธิภาพสูง AMG ที่มาพร้อมกับรหัส GLA35 และ GLB35 ทั้งคู่มีการปรับปรุงและอัพเกรดทั้งภายนอกและภายในที่คล้ายคลึงกัน และจะมีเกรดสูงสุด 35s ที่อัพกำลังเครื่องยนต์ให้เป็น 302 แรงม้า (hp)

eGUoKQ.jpg

ยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องของราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่สื่อยานยนต์ฝั่งอเมริกาได้เปิดเผยว่าตัวรถจะถูกวางจำหน่ายในประเทศช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้ แต่น่าเสียดายที่ AMG GLA45 และ GLB45 ที่ทรงพลังกว่า จะไม่เข้าร่วมกับการทำตลาดในปีนี้ แต่จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดยุโรปมากกว่า

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motortrend.com

[adsforwp id=”1302″]

author avatar
writer Writer
นักเขียนผู้ทำงานในวงการยานยนต์มากว่า 10 ปี
eFwRIb.jpeg Banner-MGHS2022-1150x150px.webp GGxRyn.jpeg JnjN68.jpeg MIKi4f.jpeg MIKRxa.jpeg d0b807P.jpeg d0b87gt.jpeg
รถใหม่ ราคารถใหม่ รถเปิดตัวใหม่ เจาะลึกรถใหม่