Great Wall Motor ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีน ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Haval Raptor Hi4 โดยมาพร้อมกับรูปลักษณ์ของรถออฟโรดเอสยูวี ซึ่งเป็นรุ่นปรับโฉมใหม่ โดยมีการอัปเกรดใหม่ทั้งภายในและภายนอก
![]()
Haval Raptor Hi4 2024 จะมีด้วยกันทั้งสิ้น 4 รุ่น ประกอบด้วย 102 Air, 102 Pro, 145 Pro และ 145 Chuanyue โดยรวมแล้วการออกแบบภายนอกของ Haval Raptor ปี 2024 ยังคงสอดคล้องกับรุ่นที่มีอยู่ การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นคือการยกระดับความสูงจากพื้น จากเดิมที่สูง 200 มิลลิเมตร ก็ปรับใหม่เป็น 221 มิลลิเมตร ซึ่งส่งผลต่อการลุยน้ำ ที่เพิ่มระยะจาก 560 มิลลิเมตร เป็น 580 มิลลิเมตร ตามความสูงที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการปรับค่า Approach angle เพิ่มขึ้นอีก 1 องศา และลดองศาของ Departure angle ลงอีก 2 องศา อีกทั้งยังมีการเสริมองศาของ Longitudinal passing angle อีก 1.1 องศา ทำให้ตัวรถมีมุมเลี้ยวและการขยับตัวที่คล่องแคล่วกว่าเดิม
![]()
![]()
Haval Raptor Hi4 2024 จะมีขนาด 4800/1950/1843 ซึ่งจะกว้างกว่ารุ่นปัจจุบัน 34 มิลลิเมตร สูงกว่า 21 มิลลิเมตร มิลลิเมตร ระยะฐานล้อไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยคงระยะอยู่ที่ 2,738 มิลลิเมตร ตัวรถจะมีโหมดการขับขี่ด้วยกัน 7 โหมด ประกอบด้วย Standard, Economy, Sports, Snow, Sand, Mud และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
![]()
แน่นอนว่า เมื่อพ่วงมากับรหัส Hi4 แล้ว ระบบส่งกำลังของตัวรถ จะเป็นแบบ PHEV ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ GW4B15E ขนาด 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยมีระบบเกียร์ DHT 2 สปีด สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า เฉพาะเครื่องยนต์จะสามารถรีดกำลังได้ 123 แรงม้า (kW) พร้อมกับแรงบิด 243 นิวตันเมตร กำลังสูงสุดของมอเตอร์คือ 70 แรงม้า (kW) บิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร ที่ด้านหน้า และ 150 แรงม้า (kW) 350 นิวตันเมตร ที่ด้านหลัง ตัวรถจะมีอัตราเร่งสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในทุกๆ รุ่น
![]()
นอกจากนี้ Haval Raptor ปี 2024 ยังคงใช้งานแบตเตอรี่แบบ lithium iron phosphate batteries ที่มีความจุ 19.09 kWh และ 27.54 kWh รองรับการชาร์จทั้งแบบเร็วและแบบมาตรฐาน ภายใต้การชาร์จอย่างรวดเร็วจะใช้เวลา 28 นาทีในการเติมแบตเตอรี่จาก 30% เป็น 80% ที่อุณหภูมิห้อง (34-37 องศาเซลเซียส)
![]()
![]()
ความแตกต่างกันในแต่ล่ะรุ่นนั้น จะอยู่ที่ระยะทางที่วิ่งด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่และอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยรุ่น 102 Air จะมีระยะทางที่วิ่งด้วยกำลังไฟฟ้าที่ 102 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 ในเวลา 6 วินาที ซึ่งจะมีประสิทธิภาพที่เท่ากับรุ่น 102 Pro แต่จะแตกต่างกันในส่วนของอุปกรณ์บางอย่าง ในขณะที่รุ่นที่สูงกว่าอย่าง 145 Pro และ 145 Chuanyue จะรองรับระยะทาง 145 กิโลเมตร และมีอัตราเร่ง 0-100 ที่ 6.2 วินาที
![]()
ภายในห้องโดยสาร อาจจะดูใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้า แต่จะมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ โดยติดตั้ง แผงหน้าปัดขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 14.6 นิ้ว W-HUD ขนาด 9 นิ้ว และพวงมาลัยแบบกลม ในขณะที่รุ่น 145 Pro และ 145 Chuanyue ยังมาพร้อมไฟแคมป์ปิ้ง ระบบปรับความร้อนพวงมาลัย เครื่องบันทึกภาพเคลื่อนไหวขณะขับขี่ ระบบเครื่องเสียง 10 ลำโพง กระจกมองหลังป้องกันแสงสะท้อน และระบบคุณภาพอากาศแบบสองโซน
![]()
![]()
![]()
นอกจากนี้ การกำหนดค่าของรถยังได้รับการอัพเกรดให้รองรับฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง L2+ ซึ่งรับรู้ผ่านเซ็นเซอร์มาตรฐาน 11 ตัว พื้นที่เก็บของ 44 ช่องทั่วทั้งรถ และปริมาตรที่เก็บของท้ายรถมาตรฐานคือ 586 ลิตร
![]()
ในส่วนของการจำหน่ายนั้น Haval Raptor Hi4 2024 จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 165,800 หยวน หรือประมาณ 861,410 บาท และมีราคาจำหน่ายสูงสุดที่ 192,800 หยวน หรือราวๆ 1 ล้านบาทเศษๆ และด้วยความที่เป็นรุ่นปรับปรุงใหม่ จึงมีตัวเลือกสีตัวถังใหม่อีก 2 สี ประกอบด้วย สีเหลือง Storm Yellow และสีเทา Ink Jiangnan Grey
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com
