ถึงเวลาปรับโฉมสำหรับ Honda HR-V 2026 ทางฮอนด้าอเมริกาได้เปิดตัว HR-V 2026 รถซับคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นล่าสุด และตอนนี้ก็ถึงเวลาสำหรับการปรับไมเนอร์เชนจ์แล้ว ซึ่งการปรับในครั้งนี้เป็นการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจนเกิดความสงสัยว่าแทบจะไม่ปรับเลยหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของพละพลัง แต่ HR-V ก็เป็นรถขนาดไซส์กลางมีขายดี โดยปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 3 ในกลุ่มรถซับคอมแพ็กต์เอสยูวี ในการจัดอันดับรถยนต์ที่ดีที่สุดของ MT
การปรับโฉมกลางรอบนี้ของ SUV ขนาดกลางของ Honda นั้นไม่ได้เป็นการปรับโฉมใหม่แต่อย่างใด
มีอะไรใหม่บ้างใน Honda HR-V ปี 2026!!
จากข่าวประชาสัมพันธ์ของ Honda กล่าวถึง “รายละเอียดการออกแบบภายนอกและภายในใหม่” แต่บางทีนั่นอาจเขียนขึ้นโดย AI ก็เป็นได้เพราะความแตกต่างเพียงอย่างเดียวเป็นเห็นได้ชัดดูเหมือนจะเป็นล้อใหม่ของทั้งสามรุ่นที่ทำตลาด และ (รวมถึงการเปลี่ยนจากล้อขนาด 17 นิ้วเป็น 18 นิ้วสำหรับรุ่น EX-L ซึ่งก่อนหน้านี้ในรุ่น Sport มีล้อขนาด 18 นิ้ว) และโลโก้เป็นสีดำเงาสำหรับรุ่น Sport นอกจากนี้ยังมีสีใหม่ด้วยกัน 2 สี ได้แก่สี Solar Reflection Metallic (สีเทา) และเฉดสีน้ำเงินที่ดูน่าดึงดูดมีชื่อว่า Boost Blue Pearl รุ่นปัจจุบันกระจกสีเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอยู่แล้วในรุ่น LX ในขณะที่ก่อนหน้านี้มีเฉพาะในรุ่น Sport และ EX-L เท่านั้น
ภายในของ HR-V 2026 เวอร์ชันอเมริกาทุกคันมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 9.0 นิ้วตรงกลาง ซึ่งเคยเป็นคุณสมบัติพิเศษเฉพาะของรุ่น EX-L ในอดีต รุ่นเริ่มต้น LX และรุ่น Sport เป็นระดับกลางจะมาพร้อมหน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว มาพร้อม Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto รวมถึงแท่นชาร์จแบบไร้สาย ซึ่งรุ่นก่อนหน้านี้มีให้เฉพาะในรุ่น EX-L เท่านั้น ตอนนี้กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน HR-V ทุกคันไปแล้ว
สำหรับรุ่น EX-L แตกต่างจากรุ่นอื่นอย่างไร? นอกจากภายในที่หุ้มด้วยหนังแล้ว รุ่นนี้ยังมาพร้อมพวงมาลัยแบบซี่ลวดสีเงิน แผงวางเท้าเรืองแสง และ “ไฟควบคุมสภาพอากาศแบบไดนามิก” ซึ่งหมายความว่าหน้าปัดจะเปลี่ยนสีเมื่อผู้ใช้หมุนปุ่มปรับอุณหภูมิที่ต่างกันนั่นเอง
สำหรับราคา HR-V เพิ่มขึ้นเล็กหน่อย
และแน่นอนว่าราคาก็เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 1,145 ดอลลาร์หรือราวๆ ( 3.7 หมื่นบาท) สำหรับรุ่น LX, 845 ดอลลาร์หรือราว ๆ (2.7 หมื่นบาท) สำหรับรุ่น Sport 895 ดอลลาร์หรือราว ๆ (2.9 หมื่นบาท) และสำหรับรุ่น EX-L ปัจจุบันราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 27,595 ดอลลาร์ หรือราว ๆ (9 แสนบาท) (รวมค่าขนส่งแล้ว) สำหรับ HR-V LX ขับเคลื่อนล้อหน้า และเพิ่มขึ้น 32,945 ดอลลาร์หรือราว ๆ ( 1.07 ล้านบาท) สำหรับรุ่น EX-L ขับเคลื่อนสี่ล้อ
HR-V เป็นรถเอสยูวีขายดี แซงหน้า Hyundai Kona และ Subaru Crosstrek ในการจัดอันดับรถยนต์ที่ดีที่สุดในตลาดอเมริกา แต่เราอยากให้ทางค่ายเพิ่มพละพลังให้มากขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเสียงภายในห้องโดยสารเงียบขึ้นกว่านี้ เราคาดหวังว่าเหลือเกินว่าฮอนด้าจะผลักดันระบบส่งกำลังไฮบริดอันยอดเยี่ยมแบบเดียวกันนี้เหมือนกับรถซีดานและแฮทช์แบ็ก Civic ซึ่งเป็นรถที่มีพละพลังมากขึ้นและประสิทธิภาพที่ดีกว่านั่นก็คือเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตรที่ทรงประสิทธิภาพใส่ใน HR-V บ้าง!! แต่ฮอนด้าคงจะไม่ได้ทำเช่นนั้น แต่ HR-V ก็ยังได้ฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งมากในปัจจุบัน และฮอนด้าก็ทำถูกต้องแล้วที่ไม่เปลี่ยนแปลงพละกำลังให้มากเกินไป
ที่มา: www.motortrend.com