Skip to content
honda-civic.jpeg

ข้อมูลใหม่ของ 2023 Toyota Highlander เวอร์ชั่นอเมริกา

Toyota Highlander เป็นรถครอสโอเวอร์ขนาดกลางที่มียอดขายสูงสุดในสหรัฐอเมริกา ตลอดเวลา 6 ปีที่เข้ามาทำตลาด และตัวรถกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ส่งผลให้ตัวรถมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่เหนือกว่า และดูจะเป็นทิศทางใหม่ๆ ของตัวผลิตภัณฑ์

[adsforwp id=”1302″]

H1MXiy.jpg

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้ เริ่มเผยขุมกำลังใหม่ เดิมที่ Toyota Highlander นั้นจะใช้งานเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร แต่สำหรับโมเดเลใหม่ของปี 2023 นั้นจะเปลี่ยนมาใช้งานเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบเรียงเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.4 ลิตรบล็อกใหม่ล่าสุด ที่ให้กำลัง 265 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 418 นิวตันเมตร และด้วยขนาดและจำนวนลูกสูบที่ลดลงไปนั้น แน่นอนว่ากำลังของตัวรถจะลดลงจากรุ่นปัจจุบัน 30 แรงม้า (HP) และสูญเสียแรงบิดสูงสุดไปราวๆ 62 นิวตันเมตร

H1Mnhg.jpg

ใช่จะสูญเสียค่าตัวเลขด้านประสิทธิภาพไปเสียทั้งหมด ตัวรถรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับขุมกำลังใหม่นั้น จะช่วยลดค่าไอเสีย และมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมไปถึงจะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยคาดว่าค่าการใช้เชื้อเพลิงจะอยู่ที่ 24 MPG หรือราวๆ 10.4 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตร อีกทั้งยังลดการปล่อยค่า NOx และ NMOG ได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับตัวรถรุ่นปัจจุบัน

H1MuJn.jpg

อีกหนึ่งรุ่นสำหรับ 2023 Toyota Highkander Hybrid จะมาพร้อมกับขุมกำลัง 4 ลูกสูบ 2.5 ลิตร และมอเตอร์คู่ โดยจะให้กำลังสูงสุด 243 แรงม้า (HP) และมีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิง 36 MPG หรือประมาณ 15.6 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตร

[adsforwp id=”1302″]

H1M8V2.jpg

สำหรับห้องโดยสารนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยในรุ่น Limited และ Platinum จะมาพร้อมแผงหน้าปัดดิจิตอลส่วนคนขับขนาด 12.3 นิ้ว แทนที่หน้าจอแบบเข็มอนาล็อก พร้อมกับความสามารถในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ 4 รูปแบบ ประกอบไปด้วย Casual, Smart, Tough และ Sporty ส่วนจอแสดงผลส่วนกลางในทุกๆ รุ่นจะมีขนาด 7 นิ้ว และมีตัวเลือกสำหรับหน้าจอ Infotainment System ที่รองรับขนาดใหญ่ที่สุดที่ 8 นิ้ว โดยมีระบบ Toyota Audio Multimedia system ที่พึ่งเปิดตัวใน Tundra รุ่น 2022 ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto รวมถึงการสตรีม Apple Music และ Amazon Music

H1MVY1.jpg

ส่วนรุ่นเริ่มต้นนั้นจะเป็นรุ่น XLE และ XSE โดยจะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลส่วนคนขับขนาด 12.3 นิ้วใหม่ แต่จะมีข้อสังเกตที่จะไม่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้เหมือนกับที่ติดตั้งบนรุ่น Limited และ Platinum และส่วนของหน้าจอแสดงผลและระบบ Infotainment System จะสามารถขยายใหญ่สุดได้ 8 นิ้ว

H1MrEW.jpg

ในรุ่น XLE และ XSE นั้นจะได้ประตูท้ายที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า รองรับการใช้งานแบบ Hand Free ด้วยเซนเซอร์ทั้งหมด 6 จุด แท่นชาร์จไร้สาย และในรุ่น Limited และ Platinum จะมีอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้ามาคือกระจกมองข้างแบบพับและปรับองศาด้วยไฟฟ้าเข้ามาเสริม

H1MCDS.jpg
ส่วนการทำตลาดและการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้น Toyota North America ได้วางกำหนดการณ์คร่าวๆในการเปิดตัว Toyota Highlander รุ่นปี 2023 ไว้ในช่วงปลายปี 2022 นี้ โดยจะเปิดให้ทำการจองล่วงหน้าในช่วงเดือนพฤศจิกายน และจะส่งมอบตัวรถสมบูรณ์กันในไตรมาสแรกของปี 2023 น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังไม่มีเปิดเผยในเรื่องของราคาให้เราได้ทราบกัน หากมีความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ เราจะเอามานำเสนอในโอกาสต่อไป

Crdit : www.carscoops.com

[adsforwp id=”1302″]

author avatar
writer Writer
เกียรติศักดิ์ งามขำ - นักเขียนประจำเว็บไซต์ Thai Driving ผู้ทำงานในวงการยานยนต์มากว่า 10 ปี ชื่นชอบรถยนต์และยานพาหนะทุกประเภท
eFwRIb.jpeg Banner-MGHS2022-1150x150px.webp GGxRyn.jpeg JnjN68.jpeg MIKi4f.jpeg MIKRxa.jpeg d0b807P.jpeg d0b87gt.jpeg
รถใหม่ ราคารถใหม่ รถเปิดตัวใหม่ เจาะลึกรถใหม่