Drako บริษัทสตาร์ทอัพผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสุดหรู ที่มีแนวทางในการพัฒนารถยนต์ที่ค่อนข้างแตกต่าง มันไม่ได้จัดให้อยู่ในยานพาหนะรักษ์โลก หรือเน้นประหยัดพลังงาน แต่จะเน้นไปในการพัฒนาผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ที่เน้นในเรื่องของสมรรถนะในการขับขี่ ให้มีความใกล้เคียงกับรถ Super Cars ที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์แบบสปอร์ตแบบเต็มกำลัง
[adsforwp id=”1302″]
![]()
2019 Drako GTE
ย้อนกลับไปในปี 2019 Drako ได้เปิดตัวรถต้นแบบ GTE ในงาน 2019 Monterey Car Week โดยที่ตัวรถจะใช้งานแพลตฟอร์ม Fisker Karma ตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีการติดตั้งมอเตอร์ 4 ตัว ที่รัดกำลังได้มากถึง 1,200 แรงม้า พร้อมกับเทคโนโลยีระบบการจัดการยานพาหนะ Drako Motors Drive OS ที่ไม่เหมือนใคร มีราคาจำหน่ายที่ 1.25 ล้านดอลลาร์ (ราวๆ 44.47 ล้านบาท) และมีการผลิตเพียง 25 คันเท่านั้น
![]()
2022 Drako Dragon
จนกระทั่งในปี 2022 Drako ได้กลับมาสร้างความแตกต่างอีกครั้งกับเจ้า Drako Dragon รถยนต์ไฟฟ้าสายสปอร์ตจัดเต็มอีกหนึ่งรุ่นจากบริษัท โดยเจ้า Dragon นั้นจะยังได้รับการออกแบบโดย Lowie Vermeersch นักออกแบบชื่อดังคนเดียวกับที่ออกแบบ GTE แต่จะได้ความร่วมมือจาก GranStudio สตูดิโอมากความสามารถในการออกแบบยานยนต์จากประเทศอิตาลี มีส่วนรวมปรับปรุงให้ตัวรถเป็นไปตามหลักการอากาศพลศาสตร์
[adsforwp id=”1302″]
![]()
เช่นเดียวกับโมเดลก่อนหน้า Drako Dragon ใช้แพลตฟอร์ม Fisker Karma โดยมี DriveOS Quad Motor ของ Drrako ระบบจัดการมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า 4 ตัว ที่ติดตั้งและทำงานอิสระบนล้อทั้ง 4 ซึ่งเป็นการปรับปรุงซอฟแวร์ขึ้นมาใหม่ ทำให้มอเตอร์สามารถขับกำลังได้สูงสุด 2,000 แรงม้า (HP) มีความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ภายในเวลา 1.9 วินาที สามารถวิ่งควอเตอร์ไมล์บนสนามความเร็วในเวลา 9.0 วินาที และยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง 200 ไมล์ต่อชั่วโมง (321.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
![]()
อย่างที่บอกไป Drako มักจะสร้างรถยนต์เพื่อสนองความเร็วเป็นหลัก ดังนั้นข้อมูลของแบตเตอรี่และระยะทางในการวิ่งแต่ล่ะครั้งไม่มีการเปิดเผยออกมา ณ ตอนนี้ เช่นเดียวกับระบบความปลอดภัยต่างๆ ก็ไม่มีการเอ่ยถึงแต่อย่างใด หรือแม้แต่ราคาเอง ก็ยังไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด แต่ทางผู้ผลิตได้ระบุไว้ว่ามันจะถูกสร้างในรูปแบบจำนวนจำกัดเพียง 99 คันเท่านั้น และเมื่อลองเทียบกับประสิทธิภาพของ Dragon และ GTE รุ่นก่อนแล้ว คงไม่ต้องเดาเลยว่า ราคาของมันจะสูงขนาดไหน
Credit : www.motortrend.com
[adsforwp id=”1302″]
