โดยก่อนหน้านี้ Tesla วางแผนที่จะเปิดตัว Model Y รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กลงและราคาถูกลง โดยปรับต้นทุนการผลิตที่ถูกลงกว่า 20% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
– รายงานล่าสุดระบุว่าการเปิดตัว Model Y รุ่นราคาประหยัด จะถูกเลื่อนออกไปหลายเดือน
– ก่อนหน้านี้ Tesla วางแผนที่จะเปิดตัว Model Y ในราคาที่ถูกลงและมีขนาดเล็กลงในช่วงครึ่งปีแรก
– ทาง Tesla ตั้งเป้าจะผลิต Model Y รุ่นใหม่ที่มีราคาถูกลงกว่ารุ่นก่อนหน้า ประมาณ 250,000 คัน ในสหรัฐอเมริกา
Tesla ต้องปรับแผนการตลาด หลังจากรายงานยอดส่งมอบรถยนต์ประจำปีลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว นักวิเคราะห์มองว่าความต้องการที่ลดลงนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดหวังต่อแบรนด์ที่เกิดจากบทบาทใหม่ของซีอีโอ Elon Musk ในรัฐบาลสหรัฐฯ ประกอบกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในประเทศจีน (ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 ของ Tesla) ก็ถือว่ามีปัญหาเช่นกัน เนื่องจาก Model Y เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุมากของบริษัท
ข้อมูลเพิ่มเติม: Tesla วางแผนผลิต Model Y ที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งราคาถูกลงกว่า 20%
แฟนๆ และนักลงทุนต่างหวังว่าจะมีบางอย่างได้รับการเปลี่ยนแปลง โดยคาดหวังว่า Tesla Model Y รุ่น “Juniper” ที่มีราคาถูกลงกว่ารุ่นก่อนหน้าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ และที่สำคัญกว่านั้น หลายคนคาดหวังว่าจะมีการเปิดตัว EV ที่ราคาไม่แพงที่สุดของ Tesla ตามแหล่งข่าววงในระบุว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่เล็กของทางค่ายซึ่งเป็นรุ่นที่ตัดทอนบางอย่างของ Model Y รุ่นปัจจุบันลง ที่ใช้รหัสว่า E41 โดยจะมีการปรับต้นทุนการผลิตที่ถูกลงอย่างน้อย 20%
การล่าช้าและการเลื่อนเวลาการเปิดตัว
ในตอนแรก Tesla ระบุว่าจะเปิดตัวและเริ่มผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ที่ราคาถูกลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 โดยรายงานข่าวจาก Reuters ระบุว่าการผลิตรถจำนวนมากจะเริ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2026 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีรายงานว่าการเปิดตัวได้ถูกเลื่อนออกไป
ตามแหล่งข่าววงในที่ Reuters อ้าง ” Model Y ราคาถูกลง ” ถูกเลื่อนออกไปหลายเดือน แม้ว่าเหตุผลจะยังไม่ชัดเจนในขณะนี้ แหล่งข่าวทั้ง 3 ราย แจ้งกับสื่อว่าการเปิดตัวครั้งแรกจะเน้นที่ลูกค้าในสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายการผลิต 250,000 คัน ในตลาดสหรัฐอเมริกาโดยใช้สายการผลิต Model Y ที่มีอยู่
คาดว่าการเปิดตัวรถรุ่นประหยัดรุ่นรหัส E41 ในตลาดจีนจะเริ่มในช่วงปลายปี 2026 โดยมีแผนการผลิตในยุโรปด้วย แม้ว่าจะยังไม่ได้ประกาศระยะเวลาที่ชัดเจน แต่คาดว่ารถยนต์รุ่นใหม่นี้จะมีต้นทุนการผลิตถูกกว่า Model Y ซึ่งเป็นรถรุ่นขายดีที่สุดประมาณ 20 %
Model 3 รุ่น Bare-Bones เข้ามาแล้ว
รถยนต์รุ่นเริ่มต้น Model 3 ในตลาดเม็กซิโกที่เป็นเบาะผ้า
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดตัว Model 3 รุ่นย่อส่วนออกสู่ตลาดอีกด้วย แม้ว่ารายละเอียดจะยังไม่ชัดเจน แต่รุ่นเริ่มต้นน่าจะอิงตามรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง
เพื่อเป็นการลดต้นทุนเพิ่มเติม Tesla จะต้องตัดฟีเจอร์ต่างๆ ออกอย่างแน่นอน เช่น การเปลี่ยนเบาะหนังเทียมระบายอากาศเป็นเบาะผ้า (ซึ่งทำไปแล้วในตลาดเม็กซิโก) และลดจำนวนลำโพงให้น้อยลง รวมถึงมาตรการลดต้นทุนอื่นๆ เช่นเดียวกับรุ่น Cybertruck ในรุ่นเริ่มต้น หาก Tesla ทุ่มสุดตัวจริง ๆ อาจลดขนาดแบตเตอรี่ลงด้วย แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อระยะทางก็ตาม
Model 2 รุ่นราคาราว ๆ 8.3 แสนบาท ถูกยกเลิกไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม รถยนต์ใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้จะไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น “Model 2” ในราคา 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 8.3 แสนบาท ตามที่ Elon Musk เคยสัญญาไว้ตั้งแต่ปี 2018 แผนการสร้างรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นในราคาประหยัดจาก Tesla ถูกยกเลิกไปเพื่อหันไปใช้ RoboTaxi แทน โดย Elon Musk กล่าวในการประชุมผลประกอบการเมื่อปีที่แล้วว่า การมีรถรุ่นราคา 8.3 แสนบาท นั้นไม่มีประโยชน์อะไรกับทางบริษัท
ข้อมูลเพิ่มเติม: Tesla Model 2 ราคา 25,000 ดอลลาร์หรือราว ๆ 8.3 แสนบาท อาจตอบโจทย์ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้
รถรุ่นรหัส E41 รุ่นราคาถูกยังคงต้องเสียภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ 25% เพื่อตอบโต้การเรียกเก็บภาษีดังกล่าว Tesla ได้เพิ่มแหล่งจัดหาชิ้นส่วนในอเมริกาเหนือ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่รถยนต์ราคาประหยัดอย่าง E41 จะได้รับผลกระทบจากความผันผวนจากกลไกการตลาดที่เกิดขึ้น หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมารายงานต่อไป
ที่มา: www.carscoops.com