หากจะพูดถึงผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของรถสปอร์ตจากแบรนด์ Toyota ในช่วงหลังๆ มานี้ จะถูกการควบคุมด้วยแบรนด์ GR (Gazoo Racing) ที่ปัจจุบันมีโมเดลออกมาแล้วมากมายทั้ง GR Suora ที่กำลังจะมีรุ่นเกียร์ธรรมดาเข้าสู่ตลาดอเมริกา หรือ GR86 ร่างแฝดของ Subaru BRZ รวมไปถึง GR Yaris ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่งในรูปแบบ Rally แต่ดูเหมือนว่าทาง Toyota เองยังขาดรถสปอร์ตเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบเรียงที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทอย่าง Toyota Celica ไป
[adsforwp id=”1302″]
1970 Toyota Cekica
และด้วยความคิดถึงโมเดลสายสปอร์ตที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายนี้ ทาง Theophilus Chin ศิลปินดิจิตอลอาร์ทิสสายยานยนต์ จึงได้จินตนาการถึงโมเดลนี้ หากจะกลับมาสู่แพลตฟอร์มสมัยใหม่ โดยได้จินตนาการถึงความเป็นไปได้บนรากฐานของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันของทางค่าย จนออกมาเป็นผลงานที่เราได้เห็นกันนี้
1996 Toyota Cekica GT-Four
ท้ายความย้อนหลังกันสักหน่อย Toyota เปิดตัว Celica โมเดลสปอร์ตครั้งแรกในปี 1970 ในรูปแบบของรถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบเรียง 1.6 ลิตร แบบ DOHC 8 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 71.4 แรงม้า (BHP) พร้อมกับแรงบิด 142 นิวตันเมตร และการวางราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งทำให้ตัวรถมียอดการจำหน่ายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และประสบความสำเร็จสูงสุดในรุ่นปี 1974 ด้วยการคว้ารางวัล Import Car Of The Year จากนิยตสาร Motor trend และคว้ารางวัลเดียวกันนี้ได้อีกถึง 2 ครั้งในปี 1976 และ 1977 ซึ่งยืนยันได้ถึงความยอดเยี่ยมของตัวรถ และตัวรถก็ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้น
2000 Toyota Celica
แต่เมื่อมีจุดสูงสุดก็มีจุดต่ำสุด Toyota Celica เจอวิบากกรรมครั้งใหญ่ ในปี 2000 กับโมเดลในรุ่นที่ 7 ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก ทั้งในแง่ของการออกแบบและขุมกำลัง ที่ถูกตีกรอบด้วยระเบียบไอเสียที่มีการปรับแก้ให้เข้มงวดขึ้น ทำให้ความนิยมค่อยๆ จางไป จนกระทั่งในปี 2006 Toyota ก็ได้ตัดสินใจปิดตำนาน Celica ลงไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยยอดการผลิตนับตั้งแต่ปี 1970-2006 ที่ปิดตัวไปด้วยจำนวน 4,129,626 คันทั่วโลก
[adsforwp id=”1302″]
กลับมาที่ผลงานของ Theophilus Chin ทางผู้สร้างได้เริ่มต้นตัวรถด้วยการใช้แพลตฟอร์มจาก GR Corolla โดยมีสาเหตุสำคัญที่แพลตฟอร์มนี้สามารถรองรับรูปแบบการส่งกำลังที่หลากหลายและยังรองรับเครื่องยนต์ตั้งแต่ขนาดต่ำกว่า 2.0 ลิตร จนไปสูงสุดที่ 2.5 ลิตร ซึ่งจะทำให้ตัวรถมีขนาดและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไปในรุ่น เช่นเดียวกับในอดีตที่ Celica มักจะมีตัวเลือกมากกว่า 2-3 รุ่นในเจนฯเดียวกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักณ์ของรถในตระกูล Celica คือระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่ เจนฯที่ 4 ในปี 1985 ซึ่งเป็นการแยกตัวอย่างชัดเจนของโมเดล Supra และ Camry ที่เดิมที่จะเป็นรุ่นย่อยของ Celica ซึ่งระบบขับเคลื่อนแบบ FWD ก็ถูกนำมาใช้งานบนภาพเรนเดอร์นี้ ท่ามกลางรถประสิทธิภาพสูงที่ปัจจุบันมักจะใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ AWD มากกว่า
มาดูกันที่ภาพรวมของตัวรถกันสักหน่อยจะเห็นได้ชัดว่าตัวรถนั้นมีการออกแบบที่ใกล้เคียงกับรถในเจนฯที่ 7 โดยเน้นไปที่การเพิ่มส่วนโค้ง และการใช้โปรไฟล์ต่ำ และมีการออกแบบไฟหน้าใหม่ที่ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของทางค่าย กระจังหน้าร่องบางสอดรับกับ Celica รุ่นสุดท้าย ในขณะที่ช่องดูดอากาศของกันชนหน้าก็สอดคล้องกับ Corolla รุ่นปัจจุบัน
ที่ด้านข้างมีซุ้มล้อแบบ Pumped ที่เผยให้เห็นล้อด้านหน้าและด้านหลังที่กว้างขึ้น พร้อมการ์ดป้องกันด้านหน้าแบบมีช่องระบายอากาศเส้นสายด้านข้างและแผงธรณีประตูที่ยกสูงขึ้นทำให้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวอย่างมีจุดมุ่งหมายแม้ในขณะที่ยืนนิ่ง งานดีไซน์ส่วนท้ายจะเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ โดยใช้ไฟท้ายแบบยาวLED และการตกแต่งกันชนสไตล์ช่องระบายอากาศที่เน้นการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์
มีข้อมูลในส่วนของขุมกำลังระบุไว้ด้วยว่า ตัวรถจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ G16E-GTS 3 ลูกสูบ 1.6 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับที่ใช้งานบน GR Yaris และ GR Corolla ระบบเกียร์ 6 สปีด และแน่นอนว่าจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และตัวเลือก GR-Four แบบแปรผัน ที่เป็นรูปแบบเฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์ GR ในปัจจุบัน
น่าเสียดายที่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจินตนาการของศิลปินเท่านั้น ทาง Toyota เองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และดูทีท่าว่า Toyota จะไม่มีแนวโน้มในการนำเอา Cekica กลับมาปัดฝุ่นใหม่ และนำเสนอเพื่อการจำหน่ายในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน และท่านผู้อ่านชื่นชอบ Celica รุ่นไหนเป็นที่สุด มาแชร์ความคิดเห็นกับพวกเรากันได้ที่ FB : Thaidriving กันได้เลย พวกเรารออ่านกันอยู่นะครับ
Credit : www.drive.com.au
[adsforwp id=”1302″]
