Neta ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน กำลังอยู่ในช่วงเตรียมการสำหรับการเปิดตัวโมเดลใหม่ของ Neta S รุ่นปี 2024 โดยตัวรถมีการอัพเกรดหลายอย่างจากรุ่นก่อนหน้า โดยล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ก็ได้เปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการบางส่วนของตัวรถออกสู่สาธารณะแล้ว
Neta S รุ่นแรกเปิดตัวในตลาดรถยนต์ประเทศจีน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2022 โดยรุ่นเริ่มต้นนั้นจะมีการติดตั้งมอเตอร์เดี่ยวกำลัง 20kw ที่ด้านหน้า และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 117.04 kWh ที่เฉพาะแบตเตอรี่ก็มีน้ำหนักปาเข้าไป 588 กิโลกรัม โดยปัจจุบัน Neta S วางจำหน่ายด้วยกัน 10 รุ่น แบ่งตามอุปกรณ์กำลังและจำนวนของมอเตอร์ละขนาดแบตเตอรี่ที่รองรับระยะทางที่แตกต่างกัน ไล่ตั้งแต่ 520, 650, 715 และสูงสุด 1,160 กิโลเมตร
โดยตัวรถรุ่นใหม่นั้น สำหรับปี 2024 นั้น จะยังคงรักษางานออกแบบรูปร่างของกระจังหน้าที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอักษรละติน π ตัวรถจะมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน (DRL) ที่คมชัดทั้งสองด้านมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ตัวรถจะมาพร้อมกับขนาดความยาว 4,980 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,980 มิลลิเมตร ความสูง 1,450 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,980 มิลิลเมตร โดยมีจุดเด่นที่ค่าสัมประสิทธิ์การลากต่ำที่ 0.216 Cd
อุปกรณ์ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาในรถรุ่นใหม่ จะมีหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา โดยทางผู้ผลิตได้กล่าวว่าซันรูฟสามารถกันความร้อนได้ 85% และรังสีอัลตราไวโอเลต 99.9% การตกแต่งภายในออกแบบโดยรวมนั้นเรียบง่าย คนขับสามารถเข้าถึง AR-HUD ขนาดของหน้าจอแนวตั้งควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ 17.6 นิ้ว ที่มีความละเอียด 2.5k ที่นั่งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า จะมีการติดตั้งหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว ที่มาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8155 รองรับการดาวน์โหลดโปรแกรมเสริมผ่านระบบ Android
นอกจากนี้ยังมีการอัพเกรดระบบเสียงใหม่ จะได้รับชุดเครื่องเสียง ที่มาพร้อมกับลำโพงมากถึง 21 ตัว ประกอบด้วย ลำโพงหลัก 12 ตัว ซับวูฟเฟอร์ 1 ตัว ลำโพงเพดาน 4 ตัว และลำโพงพนักพิงศีรษะ 4 ตัว ซึ่งชุดเครื่องเสียงไม่มีการเปิดเผยว่าจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับเกรดใด หรือจะเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับทุกเกรด
สุดท้าย ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Neta S รุ่นปี 2024 ในประเทศจีน โดยสื่อจากแดนมังกรคาดว่า ทางบริษัทจะมีงานเปิดตัวในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการจำหน่ายในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com
