BYD ผู้ผลิตมาแรงแห่งปีจากประเทศจีน ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับตลาดรถยนต์แดนมังกร ด้วยการส่ง Song Plus Champion Edition 2024 ที่มีตัวเลือกระบบส่งกำลังสองรูปแบบ คือ EV และ PHEV
ตามหลักแล้ว BYD Song Plus Champion Edition เป็นไมเนอร์เชนจ์ของ BYD Song Plus โมเดล SUV ที่รู้จักกันดีซึ่งเป็นหนึ่งใน SUV ที่ขายดีที่สุดในประเทศจีน โดยทั้งสองรูปแบบนั้นใช้การออกแบบที่อิงมาจาก Ocean X ที่โดดเด่นด้วยไฟหน้าที่ดูใกล้เคียงกับ BYD Seal สำหรับส่วนหน้านั้น Song Plus EV มีกระจังหน้าแบบปิด ในขณะที่รุ่น PHEV มีแบบไร้กรอบ นอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมกับกันชนหน้าและชุดไฟท้ายเดี่ยวแบบสปอร์ตเสริมภาพรวมของตัวรถให้ดูปราดเปรียวยิ่งกว่าเดิม
ในแง่ของขนาดตัวรถนั้น ทั้งสองรุ่นมีขนาดที่ใกล้เคียงกันมาก โดย เวอร์ชันไฟฟ้า จะมีขนาด 4785/1890/1660 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น PHEV จะมีขนาด 4775/1890/1670 มิลลิเมตร ซึ่งทั้งสองโมเดลมีระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2765 มิลลิเมตร
Song Plus “EV” Champion Edition
ระบบส่งกำลัง บน Song Plus EV Champion Edition จะมีแบ่งย่อยออกไปอีก ตามขนาดและกำลังของมอเตอร์ โดยรุ่นเริ่มต้นนั้นจะมาพร้อมกับมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า204 แรงม้า (hp) 310 นิวตันเมตร ในขณะที่รุ่นประสิทธิภาพสูงจะมาพร้อมกับ e-motor 218 แรงม้า (hp) โดยทั้งสองรุ่นจะมีตัวเลือกขนาดแบตเตอรี่ 2 ขนาด ประกอบด้วย 71kWh และ 87 kWh โดยจะสามารถวิ่งทำระยะได้ 520 และ 605 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งรอบ
Song Plus “PHEV” Champion Edition
ในส่วนของขุมกำลังของ Song Plus PHEV Champion Edition จะมาพร้อมกับระบบส่งกำลัง DM-i 1.5 ลิตรกำลัง 110 แรงม้า (hp) และมอเตอร์ไฟฟ้า 197 แรงม้า (hp) มีตัวเลือกแบตเตอรี่ 2 ขนาด สำหรับระยะทาง 110 และ 150 กิโลเมตร จากการทดสอบมาตรฐาน CLTC
ภายใน BYD Song Plus Champion Edition จะมาพร้อมกับหน้าจอส่วนกลางขนาด 15.6 นิ้ว ที่สามารถหมุนได้ 90 องศา คือสามารถปรับได้ทั้งแบบแนวนอนและแนวตั้ง นอกจากนี้ยังติดตั้งแผงหน้าคนขับขนาดใหญ่ที่ให้รายละเอียดที่ชัดเจนขึ้น มาลัยแบบสามก้าน สำหรับคันเกียร์นั้นเป็นคันเกียร์แบบยืดหดได้ ที่ใช้งานบน BYD Seal และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่บนตัวรถคือระบบการเชื่อมต่อ DiLink และระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone
ในส่วนของราคาจำหน่ายนั้น Song Plus Champion Edition 2024 รุ่นไฟฟ้าล้วน จะมีให้เลือก 3 ระดับ โดยมีราคาจำหน่าย169,800 – 189,800 หยวน หรือประมาณ 823,000 บาท ถึง 919,795 บาท ในขณะที่ตัวท๊อปของรุ่นที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่รองรับระยะทาง 605 กิโลเมตร จะมีราคาจำหน่าย 209,800 หยวน หรือราวๆ 1.016 ล้านบาท
ส่วนรุ่น PHEV จะมีการแบ่งย่อยออกเป็น 2 รุ่น ตามขนาดแบตเตอรี่ที่รองรับระยะทางที่แตกต่างกัน โดยรุ่นเริ่มต้น จะรองรับระยะทาง 110 กิโลเมตร จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 159,800 หยวน หรือประมาณ 774,544 บาท และรุ่น 150 กิโลเมตร จะมีราคาเริ่มต้นที่ 179,800 หยวน หรือราวๆ 871,935 บาท โดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com