Skip to content
honda-civic.jpeg

Toyota ประกาศทุ่มเงิน 14,000 ล้านดอลล่าร์ในการพัฒนาแบตเตอรี่บนยานพาหนะ

นับว่าเป็นการทุ่มเงินทุนก้อนใหญ่ที่สุดจากผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Toyota ที่ได้ประกาศในการแถลงข่าวออนไลน์ เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยการทุ่มเงินทุนในการพัฒนาแบตเตอรี่บนยานพาหนะเป็นจำนวนรวมกว่า 14,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งกระบวนการนี้จะเป็นการพัฒนาชุดแบตเตอรี่ทั้งแบบ lithium-ion power และแบบ solid-state โดยมีกรอบกำหนดการพัฒนาที่จะเสร็จสิ้นภายในปี 2030

[adsforwp id=”1302″]

5ddc51d93005fa6aad962b086d465c23.jpg

ผู้บริหารของโตโยต้ากล่าวในการแถลงข่าวออนไลน์ในวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา โดยเวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ในการแถลงแผนงานในครั้งนี้ เราได้จับใจความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องราวของการพัฒนาแบตเตอรี่เป็นหลัก โดยได้เนื้อความในเชิงที่ว่าด้วย บริษัทคาดว่าจะลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ลงครึ่งหนึ่งในช่วงครึ่งหลังของปี 20 เมื่อถึงเวลานั้น ยังคาดว่าจะมีแบตเตอรี่แบบโซลิดสเตตอยู่บนท้องถนน และกล่าวว่าได้เริ่มทดลองยานพาหนะที่ใช้รูปแบบแบตเตอรี่ใหม่นี้ เมื่อปีที่ผ่านมา

Masahiko Maeda ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของโตโยต้า กล่าวว่า “บริษัทกำลังพิจารณาใช้แบตเตอรี่แบบ solid-state ไม่ใช่แค่ในรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบเท่านั้น แต่สำหรับรถยนต์ไฮบริดด้วย โดยเรากำลังอยู่ในขั้นตอนที่ให้วิศวกรของเราทำการตรวจสอบว่า มันสามารถพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีความสมดุลของกำลังขับและความเสถียรที่เหมาะสมหรือไม่

[adsforwp id=”1302″]

252aaf078d7954844b15622329c3f992.jpg

ไมใช่แค่เพียงการพัฒนาแบตเตอรี่แบบ solid-state เท่านั้น ทางบริษัทยังให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่แบบ lithium-ion โดยทางบริษัทกำลังพัฒนารูปแบบของเจนเนอเรชั่นต่อไปของแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในรถยนต์ไฟฟ้า โดยทาง Masahiko Maeda ได้กล่าวเสริมไว้ว่า “ด้วยการสร้างระบบสำหรับทั้งการพัฒนาและการจัดหา เราจะส่งเสริมการเผยแพร่ยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึง BEV

ccdb00a745c0c9995a86dce175b2361b.jpg

อีกทั้ง Toyota เองก็ยังพัฒนาแบตเตอรี่แบบ nickel-metal hydride ที่ปัจจุบันยังมีการใช้งานอยู่ โดยได้ใช้เทคโนโลยีโครงสร้างเซลล์แบบ “bipolar” ที่พัฒนาขึ้นใหม่ โครงสร้างนี้ช่วยให้แบตเตอรี่เพิ่มความหนาแน่นของพลังงานเป็นสองเท่า และจะนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้งานบนตัวรถเวอร์ชั่นขายจริงในช่วงฤดูร้อนกับไลน์อัพของ Prius C และ Aqua ในตลาดญี่ปุ่นและยุโรปอีกด้วย

0ebcefbd4426f2f102bc101a0e9a1c93.jpg

โดยรวมแล้ว Toyota หวังว่าจะสามารถสร้างชุดแบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุ 200kWh ได้ภายในปี 2030 เพื่อการเพิ่มศักยภาพในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบจำนวน 8 ล้านคันภายในปี 2030 รวมไปถึงรถยนต์พลังงานไฮบริด และรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน อีก อย่างน้อย 2 ล้านคันทั่วโลกภายในปีเดียวกันนี้

2945a29048f54162aa6e63b351c8f1d2.jpg

Masahiko Maeda ได้กล่าวทิ้งท้ายการแถลงการณ์ไว้ว่า “เรากำลังมุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัย อายุการใช้งานที่ยาวนาน และคุณภาพระดับสูงเพื่อผลิตแบตเตอรี่ที่ดี ต้นทุนต่ำ และประสิทธิภาพสูง สิ่งที่ Toyota ให้ความสำคัญมากที่สุดคือการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ลูกค้าสามารถใช้ได้อย่างสบายใจ

สำหรับผู้ที่สนใจอยากได้เนื้อหาทั้งหมดของการแถลงการณ์ในครั้งนี้ ก็สามารถดูได้จากคลิปที่ทาง Toyota ได้อัพโหลดไว้บนช่องอย่างเป็นทางการของ Toyota Motor Corporation หรือจากคลิปที่เราลงไว้ได้บนได้เลยครับ

Credit : www.carscoops.com

[adsforwp id=”1302″]

author avatar
writer Writer
เกียรติศักดิ์ งามขำ - นักเขียนประจำเว็บไซต์ Thai Driving ผู้ทำงานในวงการยานยนต์มากว่า 10 ปี ชื่นชอบรถยนต์และยานพาหนะทุกประเภท
eFwRIb.jpeg Banner-MGHS2022-1150x150px.webp GGxRyn.jpeg JnjN68.jpeg MIKi4f.jpeg MIKRxa.jpeg d0b807P.jpeg d0b87gt.jpeg
รถใหม่ ราคารถใหม่ รถเปิดตัวใหม่ เจาะลึกรถใหม่