– Nissan กำลังจะเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ในตลาดอเมริกาเหนือในอนาคตอันใกล้นี้
– ในตอนแรก Nissan คาดการณ์ว่ารถยนต์ไฮบริดใหม่จะทำราคาให้สมเหตุสมผลกับรถยนต์น้ำมันในกลุ่มเซกเมนต์เดียวกัน
– เนื่องจากภาวะต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้น ทำให้รถยนต์รุ่นไฮบริดนี้อาจมีราคาสูงกว่าที่คาดไว้
– ยังไม่ชัดเจนว่าระบบไฮบริดใหม่นี้จะมีราคาสูงกว่าเดิมเท่าใด แต่ Nissan จะพยายามควบคุมและทำราคาให้ลูกค้าพึ่งพอใจ
Nissan ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ขายดีและเป็นที่นิยมในตลาดสหรัฐอเมริกา โดยแม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายทั้งรถยนต์ที่ใช้น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้าล้วน แต่ก็ยังไม่มีสินค้ารถยนต์ไฮบริดจำหน่ายเลย และตอนนี้การเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง และเราคาดการณ์ว่ารถยนต์รุ่นใหม่นี้จะมีราคาสูงกว่าที่ทางค่ายเคยให้สัญญาไว้ในตอนแรก
ระบบไฮบริดของ Nissan หรือที่เรียกว่า e-Power วางจำหน่ายแล้วในหลายๆ พื้นที่ซึ่งรวมไปโซนเอเชียเราด้วย โดยปัจจุบันเป็นรุ่นที่สามแล้ว ที่มีการติดตั้งระบบ 5-in-1 แบบใหม่ที่รวมมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ตัวลด และตัวเพิ่มเข้าเป็นโมดูลเดียว การผสานรวมอันชาญฉลาดนี้ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถลง เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่อย่างดีเยี่ยม และตัวรถยังลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนจากภายนอกได้ดีอีกด้วย
เทคโนโลยีไฮบริดของ Nissan
เทคโนโลยีไฮบริดใหม่นี้กำลังจะเข้าสู่สหรัฐอเมริการุ่นต่อไป และรถรุ่นนี้จะไม่เหมือนกับไฮบริดโดยทั่วๆ ที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรถยนต์ไฮบริดส่วนมากที่จำหน่ายนั้นจะใช้แบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเสริมกำลังจากเครื่องยนต์ แต่ในรถยนต์ Nissan e-Power รุ่นใหม่ การทำงานของเครื่องยนต์เบนซินทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ จากนั้นแบตเตอรี่จะจ่ายไฟให้กับล้อ ซึ่งเป็นระบบที่พบได้ทั่วไปในรถไฟดีเซลและรถยนต์บางรุ่น และ Nissan กำลังจะทำให้ระบบนี้กลายเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยม
ตามรายงานของ Auto News ระบุว่ารถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่จะมีราคาสูงกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก ในปี 2023 Nissan กล่าวในวันที่ระบบ e-Power เปิดตัว
ราคาอาจจะเพิ่มขึ้น??
ตอนนี้ทางแบรนด์กำลังถอยหลังกลับไปในจุดนั้น โดยคุณชุนอิจิ อินามิจิมะ ผู้บริหารระดับสูงของ Nissan ที่รับผิดชอบด้านระบบส่งกำลังและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า กล่าวกับ Auto News ว่าแผนใหม่คือการขายในราคาที่สูงกว่าที่สัญญาไว้ แต่เป็นเพราะราคาของวัสดุที่ใช้ในการผลิตนั้นสูงขึ้นเท่านั้น “เรายังต้องการปรับราคาของต้นทุนให้ได้โดยเร็วที่สุด” อินามิจิมะกล่าวต่อ เมื่อถูกถามถึงกรอบเวลาใหม่สำหรับเป้าหมายดังกล่าว คำตอบของเขาคือ “ยังไม่มีความคิดเห็น” ตามที่คาดไว้
นั่นจะเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในจุดที่ลูกค้าไม่คุ้นเคยกับระบบหรือข้อดีของระบบ “E-Power แตกต่างเพราะได้มาจากเทคโนโลยี EV และการขับเคลื่อนที่เหมือนรถยนต์ EV” เออิจิ อาคาชิ CTO กล่าว “ลูกค้าที่รู้สึกว่ารถ EV ไม่สะดวกก็จะสามารถใช้รถ EV ร่วมกับเครื่องยนต์เบนซินได้ คุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ไฮบริดก็คือสิ่งนี้”
หาก Nissan ผลิตรถที่ประหยัดน้ำมันได้ดี ก็จะประหยัดขึ้นประมาณ 15%เมื่อเทียบกับ e-Power รุ่นก่อนหน้าที่ความเร็วสูง และประหยัดได้ 9% เมื่อวิ่งในเมือง อาจฟังดูไม่มากนัก แต่เราคาดว่า Nissan Rogue มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 1.8 kWh แม้ว่าจะขับเคลื่อนได้คล้ายกับรถ EV แต่ไม่มีความจุแบตเตอรี่เพียงพอที่จะเก็บพลังงานได้มากนัก ดังนั้นเครื่องยนต์จึงต้องทำงานบ่อยครั้ง
วันเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไร??
ลูกค้าจะได้สัมผัส e-Power Nissan ในตลาดสหรัฐอเมริกาเมื่อไหร่นั้นคงต้องรอกันอีกสักหน่อย แม้ว่ายุโรปจะได้สัมผัส e-Power Qashqai รุ่นใหม่ในช่วงปลายปีนี้ แต่ผู้ซื้อในอเมริกาเหนือคงต้องรอกันสักพัก Nissan วางแผนที่จะเปิดตัว Nissan Rogue รุ่นที่ 4 ในช่วงวันที่ 31 มีนาคม 2027 ดังนั้นอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าจะเปิดตัวจริงหรือไม่ เป็นเพียงช่วงเวลาในการคาดการณ์เท่านั้น
ที่มา: www.carscoops.com