จากการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรของ Nissan ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าพวกเค้าจะไม่ยอมแพ้กับการรุกตลาดอันดับสองของเอเชียอย่างประเทศอินเดีย ที่ล่าสุดได้มีข่าวลือออกมาว่าทางผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นเตรียมการสำหรับการเปิดตัวโมเดลใหม่ในสาย Sub-4 Metre SUV กับเจ้า Nissan Magnite หนึ่งในโมเดลใหม่เอี่ยมจากทางค่ายในเร็วๆ นี้
[adsforwp id=”198″]
Nissan ได้ใช้โมเดล Terrano ในการบุกตลาด SUV อินเดียมาตั้งแต่ปี 2018 แต่มีผลตอบรับที่เบาบางจนหลายๆสื่อในประเทศต่างคาดเดาว่า Nissan เองน่าจะเข้าใจตลาดรถยนต์ SUV ในประเทศอินเดียบ้างและน่าจะถอนโมเดลออกไปจากตลาดหลังกระแสตอบรับไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ล่าสุดมีข่าวลืออย่างหนาหูจากแดนโรตี ถึงการเตรียมการครั้งใหม่ของ Nissan ที่จัดเอารถ Sub-4 Metre แนวทางที่นิยมเป็นอย่างมากของตลาดอินเดีย มาสู่โมเดลอย่าง Nissan Megnite
โดยเจ้า Nissan Magnite รุ่นใหม่นั้นจะใช้แพลตฟอร์ม CMF-A+ ที่ใช้กับแบรนด์อย่าง Renault Kwid, Triber และ Kiger SUV ซึ่งโครงสร้างเหล่านี้ทำให้เจ้า Magnite ตกอยู่ในโครงสร้างภาษีแบบ Sub-4 Metre ทำให้เกิดการลดต้นทุนในการจำหน่าย ด้วยภาษีประจำปีที่เทียบเท่ากับรถยนต์ขนาดเล็ก เท่ากับ Maruti Vitara Brezza, Hyundai Venue, Mahindra XUV 300 และ Tata Nexon
ในส่วนของตัวรถนั้นยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่มีภาพชุดหนึ่งที่หลุดออกมาสู่โลกออนไลน์ โดยเป็นส่วนหน้าของตัวรถที่แสดงไฟหน้าที่ออกแบบมาอย่างดุดัน สปอร์ต โดยที่มีไฟ DRL แบบ LED อยู่ส่วนบน และไฟหน้าแบบ LED ที่ดูโฉบเฉี่ยวสปอร์ตเป็นอย่างมาก และยังมีอีกหนึ่งภาพที่เปิดให้เห็นเพียงบางส่วนของตัวรถ ที่แสดงให้เห็นกระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมกับช่องดักอากาศ ไฟ DRL ด้านล่าง และการเดินเส้นสายของคิ้วตกแต่งที่ดูสปอร์ตน่าสนใจ
ในแง่ของประสิทธิภาพเครื่องยนต์นั้น Nissan Magnite คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร สามลูกสูบ ที่ให้แรงม้าสูงสุด 72 แรงม้า (BHP) แรงบิดสูงสุด 96 นิวตันเมตร โดยที่จะมีรุ่นเทอร์โบชาร์จเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้ Magnite มีกำลังสูงสุด 95 แรงม้า (BHP) ภายในตัวรถน่าจะถูกปรับปรุงด้วยภายในรูปแบบเดียวกับ Nissan Kicks จากภาพเหล่านี้ทำให้ indianautosblog.com สำนักข่าวยานยนต์จากประเทศอินเดียได้นำเอาข้อมูลบางส่วนไปรวบรวมและเรนเดอร์ออกมาเป็นภาพที่เราได้เห็นกันอยู่ด้านบน
[adsforwp id=”198″]
โดยที่ตัวจริงของ Nissan Magnite จะเผยโฉมครั้งแรกในวันที่ 16 กรกฎาคม นี้ที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนการเข้าสู่ตลาดอินเดียนั้นอาจจะมีการล่าช้าออกไปจนถึงปี 2021 ซึ่งคาดว่าจะเป็นอันดับสองในการเปิดตัวนอกประเทศญี่ปุ่นรองจากกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งหนึ่งในนั้นจะมีประเทศไทยอยู่ด้วย
Credit : indianautosblog.com
[adsforwp id=”198″]
